อย่าปล่อยให้ริ้วรอย กลายเป็นริ้วรอยถาวร ป้องกันได้อย่างไร?

อย่าปล่อยให้ริ้วรอย กลายเป็นริ้วรอยถาวร ป้องกันได้อย่างไร? สปาชามีคำตอบ!

ริ้วรอยบนใบหน้าสามารถเกิดขึ้นได้ตั้งแต่อายุยังน้อยและเกิดขึ้นได้กับทุกคน จึงไม่จำเป็นต้องรอให้อายุเข้าเลข 3 ถึงจะเริ่มหันมาใส่ใจดูแลผิวหน้า เพราะหลายคนอาจจะคิดว่าริ้วรอยมักจะเกิดขึ้นในช่วงที่อายุมากขึ้นเท่านั้น แต่ความจริงแล้วการเกิดริ้วรอยเป็นปัญหาที่ไม่ควรมองข้าม เนื่องจากมีหลายปัจจัยด้วยกันที่ทำให้ผิวมีริ้วรอยก่อนวัยได้ ดังนั้น อย่าปล่อยให้ริ้วรอย กลายเป็นริ้วรอยถาวร หรือริ้วรอยลึกที่รักษายาก สปาชาจะพาทุกท่านไปลดริ้วรอยและแนะนำวิธีป้องกันริ้วรอย ซึ่งจะมีวิธีไหนกันบ้าง ไปติดตามกันเลย

ริ้วรอย มีได้ตั้งแต่อายุเท่าไหร่?

ริ้วรอย (Wrinkles) เป็นปัญหาผิวที่มักเกิดขึ้นเมื่อเรามีอายุเพิ่มมากขึ้น โดยเฉลี่ยอยู่ที่อายุตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไป ซึ่งจะเริ่มสังเกตเห็นริ้วรอยเล็กๆ ขึ้นบนใบหน้า หากไม่ได้รับการดูแลผิวที่เหมาะสม รวมทั้งเกิดจากการผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินของเซลล์ผิวลดลง ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น จนเกิดริ้วรอยและผิวหย่อนคล้อยตามมานั่นเอง และเมื่อยิ่งมีอายุมากขึ้นเรื่อยๆ ผิวหนังก็จะมีลักษณะที่บางลงและเกิดริ้วรอยร่องลึกได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมด้วย

ริ้วรอยมีลักษณะอย่างไร?

ริ้วรอยจะมีลักษณะเป็นเส้นขีด เป็นรอยยับบนใบหน้า ซึ่งหากเป็นมากจะเห็นเป็นร่องลึกลงไปในผิว ทำให้ผิวหน้าดูไม่เรียบเนียนและสามารถเกิดขึ้นได้ทุกบริเวณบนใบหน้า 

ริ้วรอยเกิดจากอะไร?

สาเหตุการเกิดริ้วรอย มีด้วยกัน 2 สาเหตุหลัก ได้แก่

1. การแสดงสีหน้า เช่น การยิ้ม หัวเราะ ขมวดคิ้ว หรือเลิกคิ้วขึ้น รวมไปถึงการขยี้ตาบ่อยๆ จะทำให้ริ้วรอยเกิดขึ้นได้เร็ว โดยเฉพาะบริเวณรอยระหว่างคิ้ว หรือรอยย่นหน้าผาก แต่ริ้วรอยเหล่านี้มักจะหายไปเมื่อทำหน้านิ่งนิ่ง
2. ชั้นผิวขาดคอลลาเจน ซึ่งมักมีสาเหตุเกิดจาก 4 ปัจจัย ดังนี้
   • อายุ: เมื่อเราอายุมากขึ้นคอลลาเจนในชั้นผิวก็จะมีปริมาณลดลง ส่งผลให้ผิวขาดความยืดหยุ่น ผิวเสื่อมสภาพ จนเกิดเป็นริ้วรอย ความหย่อนคล้อย และผิวไม่เต่งตึงตามมา
   • การขยับกล้ามเนื้อซ้ำไปซ้ำมา: เมื่อมีการขยับกล้ามเนื้อบนใบหน้าบ่อยๆ หรือแสดงสีหน้าซ้ำๆ ก็จะส่งผลให้ความหนาแน่นในชั้นผิวลดลง เกิดเป็นริ้วรอยร่องลึก แล้วกลายเป็นริ้วรอยถาวรได้ในที่สุด
   • แสงแดด: รังสี UV หรือ “รังสีอัลตราไวโอเลต” ในแสงแดด เป็นหนึ่งในตัวการที่ทำให้ผิวเสื่อมสภาพและเข้าไปทำลายคอลลาเจนในชั้นผิว ส่งผลให้เกิดริ้วรอยได้ง่ายขึ้น

พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน: ไม่ว่าจะเป็นการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือมีความเครียด ถือว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดริ้วรอยขึ้นได้ เพราะสารนิโคตินและแอลกอฮออล์ มีส่วนทำให้คอลลาเจนในผิวเสื่อมสภาพลง ส่งผลให้มีริ้วรอยและผิวแก่ก่อนวัย รวมทั้งเมื่อมีความรู้สึกเครียดร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ไปยับยั้งการสร้าง “โกรทฮอร์โมน” (Growth Hormone) ทำให้ผิวแห้ง เกิดริ้วรอย สิว และผิวหย่อนคล้อย

ริ้วรอยมีกี่ประเภท?

ปัญหาริ้วรอยบนใบหน้าสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ

1. ริ้วรอยแบบตื้น
   มีสาเหตุมาจากผิวหนังชั้นบนแห้ง ขาดน้ำ หรือมีความชุ่มชื้นไม่เพียงพอ รวมทั้งเกิดจากสภาพแวดล้อม อย่างเช่นการนั่งอยู่ในห้องที่เปิดแอร์เย็นๆ ตลอดทั้งวัน ก็อาจทำให้ผิวแห้ง แล้วส่งผลให้เกิดริ้วรอยขึ้นได้
2. ริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า หรือริ้วรอยที่เกิดจากขยับกล้ามเนื้อ
   เป็นปัญหาริ้วรอยบนใบหน้าที่เกิดจากกล้ามเนื้อที่มีการหดตัวจากการเคลื่อนไหวบนใบหน้าบ่อยๆ อย่างเช่น การยิ้ม หัวเราะ ขมวดคิ้ว เลิกหน้าผากบ่อยๆ จึงทำให้มีรอยย่นขึ้น และริ้วรอยจากการแสดงสีหน้านี้ก็สามารถพัฒนาไปเป็นริ้วรอยถาวรได้เช่นกัน
3. ริ้วรอยถาวร หรือริ้วรอยย่นแบบลึก
   ริ้วรอยถาวร เป็นปัญหาที่น่ากังวลใจที่สุด เนื่องจากแม้ว่าเราจะทำหน้านิ่งๆ ไม่ได้ขยับ หรือไม่แสดงสีหน้า ก็สามารถเห็นริ้วรอยได้ชัดเจน ซึ่งเกิดจากคอลลาเจนในชั้นผิวที่ลดลงและจากการหดตัวของกล้ามเนื้อ ส่งผลให้ผิวหนังแท้กับหนังกำพร้าดึงเข้าหากัน จนเกิดเป็นรอยยับย่นและร่องลึกขึ้น โดยมักพบเป็นริ้วรอยร่องลึกบริเวณระหว่างคิ้วและหน้าผาก

ริ้วรอยบนใบหน้าที่พบได้บ่อยมีบริเวณใดบ้าง?

ปัญหาริ้วรอยที่มักเกิดขึ้นบนใบหน้า และคนส่วนใหญ่มักสังเกตเห็นได้ง่าย ได้แก่

• ริ้วรอยรอบดวงตา ริ้วรอยใต้ตา ริ้วรอยหางตา หรือตีนกา
• รอยย่นหน้าผาก ริ้วรอยหว่างคิ้ว และริ้วรอยขมวดคิ้ว
• ริ้วรอยร่องแก้ม รอยย่นที่แก้ม และร่องน้ำหมาก
• ริ้วรอยที่คอ คอย่นเป็นชั้น

รวมวิธีลดริ้วรอย แก้ไขริ้วรอยบนใบหน้า มีอะไรบ้าง?

ริ้วรอย ถ้าเป็นแล้วรักษายังไงดี? SparSha ขอแนะนำวิธีลดริ้วรอยที่ได้รับความนิยมและเป็นวิธีแก้ไขริ้วรอยบนใบหน้าที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ดังนี้

1. โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอย

โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอย เป็นการฉีดสาร Botulinum toxin ที่มีคุณสมบัติออกฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อ เมื่อฉีดเข้าไปบริเวณที่มีริ้วรอยบนใบหน้าจะสามารถช่วยลดเลือนริ้วรอยตามจุดต่างๆ บนใบหน้าได้ โดยตัวยาจะเข้าไปรบกวนการทำงานของระบบประสาท ทำให้มัดกล้ามเนื้อทำงานน้อยลง กล้ามเนื้อบริเวณนั้นจะไม่ขยับ และไม่เกิดเป็นรอยพับ เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดริ้วรอยเหี่ยวย่นบริเวณหน้าผาก รอบดวงตา หางตา ตีนกา ซึ่งโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยนี้จะสามารถช่วยลดริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้าได้เป็นอย่างดีด้วย

2. โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์

โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ เป็นวิธีลดริ้วรอยร่องลึกบนใบหน้า ด้วยการฉีดสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid เมื่อฉีดเข้าไปจะช่วยเติมเต็มในชั้นผิวที่เสื่อมสภาพ แก้ปัญหาริ้วรอยที่เป็นร่องลึก เช่น ริ้วรอยร่องแก้ม ร่องมุมปาก ร่องลึกใต้ตา โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์นี้จะช่วยทำให้ผิวหน้ากลับมาเรียบเนียน เต่งตึง ดูอ่อนเยาว์ลง และยังช่วงเพิ่มความชุ่มชื้นทำให้ผิวเปล่งปลั่งได้อีกด้วย 

3. Radiesse

Radiesse นวัตกรรมเติมเต็มผิวประเภทสารกระตุ้นคอลลาเจนชนิดพิเศษ ที่มีส่วนประกอบหลักคือสาร Calcium Hydroxylapatite (แคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทด์) หรือ CaHA ซึ่งมีคุณสมบัติเด่นในเรื่องของการสร้างเส้นใยตาข่ายใต้ผิว โดยจะทำงานด้วยการกระตุ้นคอลลาเจนโดยตรง จับกับ Fibroblast และกระตุ้นให้สร้างเส้นใยคอลลาเจน ช่วยในการฟื้นฟูโครงสร้างของผิว ทำให้ผิวแข็งแรง ลดริ้วรอย แก้ปัญหาร่องลึกได้ดี และช่วยยกกระชับใบหน้าให้เต่งตึงขึ้น

4. Morpheus Pro 

Morpheus Pro โปรแกรมยกกระชับที่จะช่วยปรับผิวให้เนียนเรียบ จัดการปัญหาผิวย่น ยับ และริ้วรอยแห่งวัยได้ดี โดยไม่ต้องผ่าตัด ด้วยการใช้พลังงานคลื่นวิทยุ RF (Radio frequency) ที่สามารถปล่อยพลังงานปรับระดับความลึกสู่ชั้นผิวหนังได้ถึง 4 ระดับ ตั้งแต่ 1-4 mm ผ่านเข็มสีทองขนาดเล็ก 24 เล่ม สามารถทำได้ทั่วทั้งบริเวณใบหน้าและลำคอ โดยพลังงาน RF จะเข้าไปกระตุ้นการซ่อมผิวใหม่ กระตุ้นกระบวนการเสริมสร้างฟื้นฟูคอลลาเจนและอิลาสตินตามธรรมชาติ ทำให้ผิวแน่น อิ่มฟู ริ้วรอยจางลง และช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิว

ริ้วรอยบนใบหน้าป้องกันได้ยังไงบ้าง?

นอกจากการรักษาด้วยนวัตกรรมทางการแพทย์แล้ว วิธีป้องกันริ้วรอยบนใบหน้าก็สามารถทำได้ตัวเองง่ายๆ และจะช่วยชะลอให้เกิดริ้วรอยช้าลงได้ ดังนี้

• หลีกเลี่ยงแสงแดด และควรทาครีมกันแดดทุกครั้งไม่ว่าจะต้องออกจากบ้านหรือไม่ก็ตาม
• ควรดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อยวันละ 1.5-2 ลิตร เพื่อช่วยบำรุงผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้าน และก่อให้เกิดริ้วรอยได้ง่ายๆ
• หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่
• ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยให้เลือดลมไหลเวียนดี ส่งผลให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งและช่วยลดการเกิดริ้วรอยต่างๆ
• พักผ่อนให้เพียงพอ ทำจิตใจให้แจ่งใส ไม่เครียด
• รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผักใบเขียว ผลไม้ หรืออาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ, ซี และอี เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น และช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย

สรุป วิธีลดและป้องกันริ้วรอยควรทำอย่างไร?

การเกิดปัญหาริ้วรอยบนใบหน้าสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการมีอายุที่มากขึ้น แสงแดด ผิวขาดความชุ่มชื้น พักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียด ดื่มแอลกอฮอล์ หรือสูบบุหรี่ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้ผิวเกิดริ้วรอยร่องลึกและผิวหย่อนคล้อยตามมาได้ง่าย แต่ในปัจจุบันก็มีวิธีรักษาริ้วรอยด้วยกันหลายวิธี ทั้งการทำโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอย โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ โปรแกรมฉีด Radiesse หรือการใช้เครื่องยกกระชับผิว ก็จะช่วยดูแลสุขภาพผิวของเราให้แข็งแรงได้อย่างยั่งยืน ทั้งนี้ ไม่ว่าจะทำหัตถการอะไรก็ตาม ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ทุกครั้ง และสำหรับใครที่ต้องการดูแลผิวและลดริ้วรอย สามารถเข้ารับการปรึกษากับเราได้ที่ SparSha ทุกสาขา หรือสอบถามออนไลน์ได้เลยที่

@LINE : https://bit.ly/SparSha-LINEofficial หรือ Inbox : https://m.me/SparShathailand