Article

Sparsha

“สิวที่หลัง” เป็นเรื่องใหญ่กว่าที่คิด ถึงแม้ว่าใครหลายคนอาจจะคิดว่าปัญหาสิวที่หลังคงไม่ค่อยมีใครมองเห็น จึงไม่ต้องกังวลใจเท่ากับสิวบนใบหน้า แต่ความจริงแล้วแผ่นหลังของเราก็สำคัญพอๆ กับผิวหน้า เพราะส่งผลต่อความมั่นใจ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการสวมเสื้อผ้าที่โชว์แผ่นหลัง หรือสาวๆ ที่ต้องการใส่บิกินี่อวดหุ่นและผิวสวยๆ รวมทั้งหนุ่มๆ ที่อาจจะต้องเปิดหลังโชว์ด้วยเช่นกัน การเกิดสิวที่หลังเยอะมากก็จะเป็นปัญหาที่คอยสกัดความมั่นใจของใครหลายคนไปนั่นเอง เพราะฉะนั้นสิวที่หลังไม่ใช่เรื่องเล็ก ต้องรีบจัดการ เพื่อทวงคืนแผ่นหลังเนียนใสไร้สิวของเรากลับคืนมา

สปาชาจึงจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับปัญหาสิวที่หลัง เกิดจากอะไร? รักษาอย่างไร? รวมทั้งวิธีป้องกันสิวที่หลังต้องทำยังไงบ้าง เพื่อไม่ให้ปัญหาสิวมากลบความเนียนสวยของหลังเรา ส่วนจะมีวิธีอย่างไร ไปติดตามหาคำตอบกันได้เลยค่ะ

สิวที่หลัง เกิดจากอะไร?

สิวที่หลังเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยไม่แพ้ปัญหาสิวบนใบหน้า และสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย ซึ่งมักจะเกิดจากการอุดตันของรูขุมขนหรือจากน้ำมันและเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ทำให้ผิวหนังเกิดการอักเสบและเป็นสิวตามมานั่นเอง นอกจากนี้สิวที่หลังยังมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัยด้วยกัน ซึ่งจะแบ่งออกดังนี้

สาเหตุการเกิดสิวที่หลังจากปัจจัยภายใน

ฮอร์โมน

การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน โดยเฉพาะช่วงที่มีประจำเดือน ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ หรือผู้ที่กำลังเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น ทำให้ปริมาณฮอร์โมนในร่างกายไม่สมดุล เช่น ฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน (Testosterone) มากขึ้น จึงกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตไขมัน (Seborrhea) ออกมามาก จนทำให้เกิดการอุดตันในรูขุมขน แล้วมีแนวโน้มที่สิวจะขึ้นทั้งบริเวณใบหน้าและเป็นสิวที่หลังมากกว่าปกติ

กรรมพันธุ์

หากคนในครอบครัวมีลักษณะผิวที่บอบบางแพ้ง่าย ผิวแห้ง ผิวมัน หรือเป็นสิวง่าย ก็มีโอกาสเกิดสิวที่หลังได้ง่ายกว่าคนทั่วไปได้เช่นกัน

ความเครียด

ความเครียดและความวิตกกังวล เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวที่หลังได้ง่าย เนื่องจากการมีความเครียดจะทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอลสูงขึ้น แล้วไปกระตุ้นการทำงานของต่อมไขมัน ส่งผลให้ผิวหนังผลิตไขมันหรือซีบัมออกมามากขึ้นกว่าเดิม จนอาจเกิดการสะสมของสิ่งสกปรกและอุดตันในรูขุมขนได้ง่ายขึ้นนั่นเอง

สาเหตุการเกิดสิวที่หลังจากปัจจัยภายนอก

เหงื่อและสิ่งสกปรก

ด้วยสภาพอากาศของประเทศไทยอาจทำให้เหงื่อออกมาก ส่งผลให้เกิดการหมักหมมอยู่ในร่มผ้าและเกิดเป็นความชื้นมากกว่าปกติ รวมทั้งการไม่อาบน้ำในทันทีหลังออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาเสร็จ ก็จะยิ่งสะสมทั้งเหงื่อ น้ำมัน และสิ่งสกปรกบนผิวหนังมากขึ้น จนเกิดการอุดตันที่รูขุมขนได้ง่ายแล้วเกิดเป็นสิวที่หลังได้ในที่สุด

การรับประทานอาหาร

การรับประทานอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูง ไม่ว่าจะเป็นของทอด ของมัน อาหารรสหวานจัดๆ หรือน้ำอัดลม อาหารประเภทนี้จะทำให้เกิดสภาวะผิวมัน หรือกระตุ้นการทำงานของต่อมไขมัน แล้วส่งผลให้เกิดการอุดตันในรูขุมขน จนเกิดเป็นสิวที่หลังตามมาได้ง่าย

ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว หรือเครื่องสำอาง

ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว หรือเครื่องสำอางบางชนิดเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวที่หลังได้ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำมันเป็นส่วนผสม อาจทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขนและเกิดเป็นสิวที่หลัง รวมไปถึงสบู่ ครีมอาบน้ำ และแชมพูสระผม ก็อาจก่อให้เกิดการแพ้ หรือหากทำความสะอาดไม่ดีพอก็ส่งผลให้เกิดการระคายเคืองบริเวณหลังจนเกิดเป็นสิวได้เช่นกัน

เสื้อผ้าที่สวมใส่

การสวมเสื้อผ้าที่รัดแน่น หรือมีขนาดพอดีตัวเกินไป อาจทำให้เกิดการเสียดสีกับผิวหนังบริเวณหลังได้ง่ายและหากยิ่งมีเหงื่อหรือความมันอยู่บริเวณหลังแล้ว เมื่อเกิดการเสียดสีก็จะยิ่งทำให้เกิดการระคายเคือง เป็นคราบขี้ไคล และถ้าเป็นเสื้อผ้าที่ระบายอากาศไม่ดีพอ ก็จะส่งผลทำให้มีการสะสม อับชื้น และหมักหมมสิ่งสกปรกจนเป็นสิวที่หลังเยอะมาก นอกจากนี้การสวมชุดนอนซ้ำๆ ไม่ได้ทำความสะอาดก็จะยิ่งทำให้ผิวบริเวณหลังสัมผัสกับสิ่งสกปรกมากขึ้นอีกด้วย

ไม่เปลี่ยนผ้าปูที่นอน

ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน หรือผ้าห่มที่ไม่ได้ทำความสะอาดเป็นเวลานาน มักจะเป็นแหล่งสะสมสิ่งสกปรก เชื้อแบคทีเรีย และฝุ่นละอองเป็นอย่างมาก อีกทั้งปลอกหมอนที่ต้องสัมผัสกับความมันของเส้นผมที่ไม่ได้สระโดยตรงก็จะยิ่งสะสมสิ่งสกปรก แล้วทำให้เกิดสิวที่หลังขึ้นเยอะตามมา

ผงซักฟอก หรือผลิตภัณฑ์ซักรีด

สาเหตุนี้หลายๆ คนก็อาจจะมองข้าม เพราะคิดว่าการทำความสะอาดเสื้อผ้าด้วยผลิตภัณฑ์ซักผ้าจะช่วยให้เสื้อผ้าสะอาดแล้วก็คงไม่ทำร้ายผิว แต่หากทำความสะอาดหรือล้างผงซักฟองออกไม่หมดก็จะทำให้ผงซักฟอกตกค้างอยู่บนเสื้อผ้าได้ แล้วถ้ายิ่งไปผสมกับเหงื่อไคลบนร่างกายก็จะส่งผลทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง และเกิดเป็นสิวอักเสบที่หลังตามมาได้นั่นเอง

การใช้ยาบางชนิด

ยาบางชนิดมีผลข้างเคียงทำให้เกิดสิวบนร่างกายหรือสิวที่หลังได้ เนื่องจากยาบางชนิดส่งผลต่อฮอร์โมนหรือระบบต่อมไร้ท่อ เช่น ยาคุม ยาคอร์ติสเตียรอยด์ จะสามารถทำให้เกิดสิวที่หลังได้ ดังนั้น การใช้ยาบางชนิดควรปรึกษาแพทย์ว่ามีผลข้างเคียงอย่างไรบ้าง และสามารถทำการรักษาสิวไปพร้อมกันได้ไหม หรือการลดขนาดยาที่ใช้ รวมถึงการเปลี่ยนตัวยาได้หรือไม่

ลักษณะสิวที่หลังมีอาการอย่างไร?

สิวที่หลัง (Back Acne) เป็นสิวที่มักกระจายอยู่บนแผ่นหลัง ซึ่งบางรายจะมีสิวขึ้นตั้งแต่บริเวณหัวไหล่ หลัง และบริเวณลำตัวลงไป โดยเฉพาะช่วงบนปีกหลังจะมีสิวขึ้นเป็นกระจุกมากกว่าบริเวณอื่น และอาจจะรู้สึกเจ็บได้ อีกทั้งสิวที่หลังอาจมีสิวเพียงประเภทเดียวหรือหลายประเภทผสมกัน เช่น สิวหัวดำ สิวตุ่มแดง สิวหนอง สิวหัวช้าง เป็นต้น

ประเภทของสิวที่หลัง มีอะไรบ้าง?

ชนิดของสิวที่หลังสามารถแบ่งออกได้หลายประเภท ได้แก่

  • สิวอุดตันหัวขาว
    เป็นสิวหัวปิด หรือมีลักษณะเป็นตุ่มนูนสีขาวใต้ผิวหนัง ซึ่งสีขาวที่มองเห็นจะเป็นไขมันและเซลล์ผิวที่ตายแล้วอุดตันในรูขุมขน และหากปล่อยไว้นานก็อาจกลายเป็นสิวอักเสบได้ในที่สุด
  • สิวอุดตันหัวดำ
    เป็นสิวหัวเปิด หรือเป็นตุ่มนูนเล็กมีจุดสีดำตรงกลาง ซึ่งเป็นสิวหัวขาวที่ทำปฏิกิริยากับออกซิเจนจนกลายเป็นสีดำ โดยสิวประเภทนี้สามารถบีบออกหรือกดได้ แต่หากบีบไม่ถูกวิธีอาจทำให้เกิดเป็นรอยสิวหรือสิวอักเสบเพิ่มขึ้น
  • สิวตุ่มแดง
    มีลักษณะเป็นตุ่มแดงนูนเล็กๆ เกิดจากการอักเสบของสิวอุดตัน เป็นสิวประเภทที่ไวต่อการสัมผัส ถ้าแตะโดนจะรู้สึกเจ็บ และถ้าแกะหรือบีบออกอาจทำให้เกิดการติดเชื้อและอักเสบรุนแรงขึ้น
  • สิวหัวหนอง
    เป็นสิวอักเสบแบบหัวหนอง ที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนทำให้มีตุ่มหนองอยู่ภายใน และเป็นประเภทสิวที่จะมีอาการเจ็บร่วมด้วย หากกดออกไม่ถูกวิธีอาจทำให้เกิดสิวหัวหนองซ้ำๆ และทำให้เกิดเป็นรอยด่างดำหรือแผลเป็นตามมา
  • สิวอักเสบตุ่มแดงขนาดใหญ่
    มีลักษณะเป็นตุ่มแดงขนาดใหญ่อยู่ใต้ผิวหนัง ซึ่งเป็นสิวอักเสบชนิดรุนแรง เป็นไตแข็งๆ และรู้สึกเจ็บร่วมด้วย เกิดจากแบคทีเรียและน้ำมันในตุ่มสิวแตกกระจายอยู่ใต้ผิวหนัง ไม่สามารถกดออกได้ด้วยตัวเอง เพราะอาจทำให้ทิ้งแผลเป็นหรือรอยหลุมสิวไว้
  • สิวหัวช้างหรือสิวซีสต์
    เป็นสิวที่มีลักษณะเป็นก้อนนูนแดงขนาดใหญ่ หรือเป็นก้อนแข็ง เกิดจากการอักเสบรุนแรงในรูขุมขน ซึ่งอาจจะมีหัวหรือไม่มีหัวก็ได้ แต่บางรายอาจพบหัวสิว 2-3 หัวอยู่ในเม็ดเดียวกัน ทำให้มีอาการเจ็บปวดอย่างรุนแรง และจะมีการอักเสบขึ้นเรื่อยๆ หากไม่ได้รับการรักษา หรือปล่อยทิ้งไว้ก็อาจทำให้เกิดแผลเป็นหรือหลุมสิวขนาดใหญ่

จัดการสิวที่หลังด้วย Back Acne Clear โปรแกรมรักษาสิวที่หลัง ให้ผิวหลังเนียนใส ที่ SparSha

สำหรับใครที่กำลังมองหาวิธีรักษาสิวที่หลัง หรือ “สิวที่หลัง รักษายังไงดี” สปาชาขอแนะนำโปรแกรม Back Acne Clear ที่จะช่วยจัดการปัญหาสิวที่หลัง เพื่อเผยผิวแผ่นหลังเนียนใสสุดเซ็กซี่ ไม่ว่าจะใส่ชุดไหน หรือโชว์แผ่นหลังแค่ไหนก็ไม่หวั่น มั่นใจอย่างแน่นอน

Back Acne Clear เป็นโปรแกรมการฟื้นบำรุงและแก้ปัญหาผิวบริเวณแผ่นหลัง ช่วยลดปัญหาสิว ผดผื่น และสิวอุดตัน ด้วยไข่มุกบริสุทธิ์ และผสานกับกระบวนการผลัดเซลล์ผิว ช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วไม่ให้อุดตันในรูขุมขน พร้อมนวดอโรม่าน้ำนม เพื่อบำรุงผิวให้เนียนนุ่ม แล้วบำรุงผิวเข้มข้นด้วย Algae Powder Mask มาร์กสูตรพิเศษที่อุดมไปด้วยวิตามินและสาหร่ายสีเขียวให้ซึมสู่แผ่นหลังอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมช่วยขับสารพิษที่ตกค้างบนผิว อีกทั้งยังช่วยฟื้นฟูผิวอย่างต่อเนื่องด้วยการเติมผิวให้ชุ่มชื้น เพิ่มความยืดหยุ่น และยับยั้งการสร้างเม็ดสีผิว (Melanin) ด้วย Paeonia Suffruticosa Extract ทำให้สีผิวเนียนสม่ำเสมอ ผิวบริเวณหลังดูกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมใส่ชุดสวยและโชว์เผ่นหลังได้อย่างมั่นใจ และเสริมบุคลิกภาพให้ดูสง่างามได้อีกด้วย

โปรแกรม Back Acne Clear ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?

  • แก้ปัญหาสิวที่หลัง
  • แก้ปัญหาผดผื่น สีผิวไม่สม่ำเสมอ
  • ลดเลือนรอยดำจากสิว
  • แก้ปัญหาผิวแห้งกร้านบริเวณแผ่นหลัง
  • ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว
  • เพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่ผิว
  • เติมความชุ่มชื้นให้ผิวสวยเนียนนุ่ม ดูกระจ่างใสขึ้น

โปรแกรม Back Acne Clear เหมาะกับใคร?

  • ผู้ที่มีปัญหาเป็นสิวที่หลัง
  • ผู้ที่มีสีผิวไม่สม่ำเสมอ
  • ผู้ที่ต้องการรักษารอยดำจากสิวที่หลังให้จางลง
  • ผู้ที่ขาดความมั่นใจ ไม่กล้าโชว์แผ่นหลัง

เคล็ดลับ “วิธีป้องกันสิวที่หลัง” ลดความเสี่ยงในการเกิดสิว

ปัญหาสิวที่หลัง ป้องกันได้ สปาชาขอแชร์เคล็ดลับวิธีป้องกันสิวที่หลัง เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดสิวและการป้องกันไม่ให้เกิดสิวที่หลังซ้ำอีก ซึ่งสามารถทำตามได้ดังนี้

  • ทำความสะอาดร่างกายหลังออกกำลังกาย
    หลังจากออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมที่ทำให้มีเหงื่อออกมากๆ ควรรีบอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เร็วที่สุด เพื่อกำจัดสิ่งสกปรก ฝุ่น และลดการหมักหมมของแบคทีเรียจากความอับชื้นของเหงื่อที่สะสมอยู่บนเสื้อผ้า
  • ทำความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยน
    การทำความสะอาดหลังเป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลย และไม่ควรขัดถูหลังแรงๆ เพราะอาจจะทำให้ผิวหนังเกิดการเสียดสีและเกิดการอักเสบ แล้วส่งผลให้เกิดสิวที่หลังตามมาได้ง่าย รวมทั้งควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวด้วย
  • สวมใส่เสื้อผ้าที่สบายตัว
    ไม่ควรใส่เสื้อผ้าที่รัดหรือคับจนเกินไป เนื่องจากจะทำให้ผิวเกิดการเสียดสีบ่อย แล้วไปรบกวนรูขุมขนจนเกิดการระคายเคืองเป็นสิวได้ง่าย โดยควรเลือกใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี จะช่วยลดความอับชื้นจากเหงื่อระหว่างวันที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิวที่หลังได้
  • ปรับเปลี่ยนการรับประทานอาหาร
    ควรหลีกเลี่ยงหรือลดการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง อาหารหวานจัด หรือขนมที่ทำจากนม เพราะเป็นอาหารที่ทำให้เกิดสิวได้ง่าย โดยแนะนำให้รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพผิวมากขึ้น เช่น ผักและผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง นมถั่วเหลือง ไข่ เป็นต้น
  • ทำความสะอาดเส้นผมอย่างสม่ำเสมอ
    สระผมอย่างสม่ำเสมอ ไม่ควรปล่อยให้ผมมัน โดยเฉพาะผู้ที่มีผมยาว เนื่องจากหากเส้นผมมีความมันมากๆ ก็จะยิ่งมีสิ่งสกปรกสะสม และถ้าเส้นผมสัมผัสกับหลังก็จะยิ่งทำให้เกิดการอุดตันในผิวแล้วเกิดเป็นสิวที่หลังได้ในที่สุด

สรุปสิวที่หลัง

ปัญหาสิวที่หลัง อาจเป็นปัญหาที่หลายคนมองข้ามและคิดว่าคงไม่เป็นปัญหาอะไรมากนัก เพราะสามารถใส่เสื้อผ้าเพื่อปกปิดไว้ได้ แต่หากปล่อยไว้นานอาจทำให้เป็นสิวที่หลังเยอะมาก หรือเป็นสิวเม็ดใหญ่ขึ้น และกลายเป็นรอยดำหรือรอยแผลเป็นได้ในที่สุด ดังนั้นการป้องกันไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ โดยหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวที่หลังได้ง่าย หรือเมื่อมีสิวที่หลังขึ้นน้อยๆ ก็ควรรีบรักษา เพื่อไม่ให้สิวลุกลาม หรือเกิดการอักเสบ โดยสามารถเข้ามาปรึกษากับแพทย์ที่ SparSha หรือทำโปรแกรม Back Acne Clear เพื่อฟื้นบำรุงและแก้ปัญหาผิวบริเวณแผ่นหลัง ก็จะช่วยทำให้ผิวกลับมาเนียนใสไร้สิว และดูสุขภาพดีขึ้น

Related Posts

ไขมันดี ไขมันส่วนเกิน

รู้ก่อนลด ไขมันดี VS ไขมันเลว ต่างกันอย่างไร

การมีไขมันสะสมในร่างกายมากจะส่งผลต่อเรื่องน้ำหนักเกินและรูปร่าง รวมทั้งอาจทำให้เกิดโรคต่างๆ ตามมา แต่ความจริงแล้วไขมันเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย

อ่านเพิ่มเติม
ฉีดโบท็อกซ์บ่อยแล้วจะดื้อโบจริงไหม

เช็กด่วน! ฉีดโบอย่างไรไม่ให้ดื้อโบท็อกซ์

ดื้อโบท็อกซ์ เป็นภาวะที่เมื่อเราฉีดโบท็อกซ์เข้าไปแล้วไม่เห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงเท่าที่ควร หรือไม่เห็นผลเลย ซึ่งเกิดจากร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อสารโบทูลินัมท็อกซิน (Botulinum toxin)

อ่านเพิ่มเติม
อย่าปล่อยให้ริ้วรอย กลายเป็นริ้วรอยถาวร

อย่าปล่อยให้ริ้วรอย กลายเป็นริ้วรอยถาวร ป้องกันได้อย่างไร?

ริ้วรอยบนใบหน้าสามารถเกิดขึ้นได้ตั้งแต่อายุยังน้อยและเกิดขึ้นได้กับทุกคน จึงไม่จำเป็นต้องรอให้อายุเข้าเลข 3 ถึงจะเริ่มหันมาใส่ใจดูแลผิวหน้า

อ่านเพิ่มเติม

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า