หมดกังวลเรื่องสิว เปลี่ยนผิวให้เนียนใส ด้วยโปรแกรมรักษาสิว 5 ขั้นตอน by SparSha

ตุ่มนูน หรือสิว มีด้วยกันหลากหลายชนิด โดยสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ สิวไม่อักเสบ และสิวอักเสบ

1. สิวไม่อักเสบ หรือสิวอุดตัน (Comedones)
   ประเภทของสิวชนิดที่ไม่มีการอักเสบ หรือสิวอุดตัน เกิดจากการสะสมของไขมันส่วนเกิน เซลล์ผิวที่ตายแล้ว หรือสิ่งสกปรกตกค้างในรูขุมขน จึงทำให้เกิดเป็นสิวอุดตันใต้ชั้นผิวหนัง ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 ชนิดด้วยกัน ได้แก่
   1. สิวอุดตันหัวดำ (Blackheads) หรือสิวอุดตันหัวเปิด จะมีลักษณะเป็นตุ่มนูนเล็กน้อยที่อุดตัวอยู่ในรูขุมขน ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 0.1-3 มิลลิเมตร มีรูเปิดออกและมองเห็นจุดสีดำบริเวณตรงกลางสิว ซึ่งสิวชนิดนี้จะทำปฏิกิริยากับเมลานินหรือเม็ดสีในเซลล์ผิวหนังร่วมกับออกซิเจนในอากาศ จนทำให้เปลี่ยนเป็นสิวหัวดำ
   2. สิวอุดตันหัวขาว (Whiteheads) หรือสิวอุดตันหัวปิด จะมีลักษณะเป็นตุ่มนูนเล็กน้อยขึ้นมาจากผิวคล้ายกับสิวอุดตันหัวดำ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 0.1-3 มิลลิเมตร แต่จะมีสีเดียวกับผิวหนังปกติ ไม่มีรูเปิดของสิว ซึ่งรากของสิวจะอยู่ลึกกว่าสิวประเภทอื่น ๆ และเป็นชนิดที่จะลุกลามไปเป็นสิวอักเสบได้สูง
2. สิวอักเสบ (Inflammatory Acne)
   การเกิดสิวอักเสบมักจะพัฒนามาจากสิวอุดตัน โดยเชื้อแบคทีเรีย C.acnes ที่เจริญเติบโตอยู่ในรูขุมขน ซึ่งเป็นตัวการกระตุ้นให้เกิดการอักเสบอย่างรุนแรงใต้ผิวหนัง จนทำให้กลายเป็นสิวอักเสบ และมีอาการบวมแดงขึ้นมา โดยประเภทของสิวชนิดที่มีการอักเสบนี้ก็จะแบ่งออกเป็น 4 ชนิด ได้แก่
   1. สิวตุ่มแดง (Papules) เป็นสิวที่มีลักษณะเป็นตุ่มนูนแดงขนาดเล็ก ซึ่งจะเป็นสิวที่เริ่มอักเสบในช่วงแรก ๆ หากสัมผัสจะรู้สึกเจ็บ
   2. สิวตุ่มหนอง (Pustules) สิวอักเสบที่มีหนอง ซึ่งจะมีลักษณะเป็นตุ่มบวมแดงขนาดใหญ่ และจะมีหัวหนองอยู่บริเวณตรงกลางของตุ่มแดง
   3. สิวหัวช้าง (Nodules) เป็นสิวอักเสบสีแดงขนาดใหญ่ที่มีขนาดตั้งแต่ 5 มิลลิเมตรขึ้นไป ซึ่งจะจับเป็นก้อนไตอยู่ใต้ผิวหนัง มีอาการบวมและนูนขึ้นมาบนผิวหนัง
   4. สิวซีตส์ (Cysts) ชนิดสิวที่มีอาการรุนแรงมากที่สุด มีลักษณะเป็นก้อนนูนแดงขนาดใหญ่ ภายในจะเต็มไปด้วยหนองปนเลือด มีอาการบวมแดง และเจ็บปวดมาก

• ใบหน้า เช่น จมูก แก้ม คาง หน้าผาก
• หน้าอก
• ไหล่
• หลังส่วนบน
• บริเวณต่อมไขมันต่าง ๆ ของร่างกาย

เคลียร์จบทุกปัญหาสิวซ้ำซาก ด้วยโปรแกรมรักษาสิว 5 ขั้นตอนที่ SparSha นวัตกรรมที่จะช่วยดูแลเรื่อง “สิว” โดยเฉพาะ ซึ่งจะช่วยจัดการสิวตั้งแต่ต้นตอ พร้อมฟื้นฟูผิวให้กลับมาแข็งแรง ไม่ทำให้เกิดรอยสิว บำรุงผิวให้กระจ่างใส และช่วยยับยั้งไม่ทำให้กลับมาเป็นสิวซ้ำได้อีก ซึ่งโปรแกรมเคลียร์สิวนี้จะมีด้วยกัน 5 ขั้นตอนสุดล้ำ ดังนี้

ขั้นตอนที่ 1 คลีนหน้า
เริ่มต้นที่การทำความสะอาดผิวหน้า เพื่อขจัดสิ่งสกปรกต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสำอางตกค้าง ฝุ่น ควันจากมลภาวะ ซึ่งจะเป็นการทำความสะอาดผิวหน้าและรูขุมขนได้อย่างล้ำลึก เพื่อช่วยให้ผิวได้เตรียมพร้อมสำหรับการบำรุงในขั้นตอนต่อไปได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ขั้นตอนที่ 2 กดสิวโดยผู้ชำนาญการ
ขั้นตอนนี้จะทำโดยแพทย์ผู้ชำนาญการของสปาชา ซึ่งจะทำการกดสิวอุดตันออก เนื่องจากสิวอุดตันอาจกลายไปเป็นสิวอักเสบในอนาคตได้ และจะทำให้รักษาได้ยากกว่าเดิม

ขั้นตอนที่ 3 ฉายแสง LED สีฟ้า
หลังจากนั้นจะมาต่อที่ขั้นตอนการฉายแสง ด้วยนวัตกรรมแสงสีฟ้า (Blue Light) ได้มาตรฐาน US FDA ซึ่งจะช่วยในเรื่องของการซ่าเชื้อแบคทีเรียและลดการทำงานของต่อมไขมัน ทำให้สิวแห้งตัวเร็วขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดการเกิดสิวและป้องกันไม่ให้สิวเกิดขึ้นซ้ำซากบริเวณเดิม

ขั้นตอนที่ 4 มาส์กหน้า
ต่อมาจะเป็นขั้นตอนการ Acne Mask หรือมาส์กหน้าสูตรลดสิวโดยเฉพาะที่สปาชา ซึ่งจะช่วยในเรื่องของการลดเลือนรอยแดงและรอยดำที่เกิดจากสิว พร้อมฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เพื่อช่วยในการลดการเกิดสิวอักเสบ รวมถึงช่วยควบคุมความมันบนใบหน้าได้อีกด้วย

ขั้นตอนที่ 5 บำรุงผิวด้วยเซรั่ม
สำหรับขั้นตอนสุดท้ายของโปรแกรมรักษาสิวจะเป็นการบำรุงผิวด้วยเซรั่นสูตรเฉพาะของสปาชา ซึ่งตัวเซรั่มจะช่วยปกป้องผิวทั้งจากแสงแดดและมลภาวะได้เป็นอย่างดี ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น พร้อมช่วยปรับสภาพผิวให้แข็งแรงและผิวแลดูกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น

• ผู้เป็นสิวง่าย
• ผู้ที่มีปัญหาสิวอุดตัน สิวอักเสบ หรือสิวต่าง ๆ
• ผู้ที่เป็นสิวซ้ำซาก
• ผู้ที่มีปัญหารอยดำและรอยแดงจากสิว
• ผู้ที่มีไขมันอุดตันบริเวณหน้าเยอะ
• ผู้ที่มีผิวหน้ามัน และรูขุมขนกว้าง