ลดเท่าไหร่ก็ไม่ลง! ปัญหาระบบเผาผลาญพัง? ที่คนลดน้ำหนักต้องรู้
การลดน้ำหนักถือเป็นเรื่องที่หลายคนให้ความสำคัญ แต่ว่าทำไมบางครั้งแม้เราจะควบคุมอาหารหรือออกกำลังกายอย่างเข้มงวด น้ำหนักก็ยังไม่ลดลงตามคาดสักที? ซึ่งปัญหานี้อาจมาจาก “ระบบเผาผลาญพัง” ที่เป็นหนึ่งในอุปสรรคใหญ่ของการลดน้ำหนักที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับระบบเผาผลาญกันว่า สาเหตุที่ทำให้ระบบเผาผลาญพังเกิดจากอะไร มีอาการ หรือผลกระทบอย่างไรต่อร่างกาย รวมถึงวิธีซ่อมแซมระบบเผาผลาญให้กลับมาทำงานได้ดีอีกครั้งทำอย่างไรได้บ้าง
ระบบเผาผลาญพังคืออะไร? มาทำความรู้จักกัน
เริ่มด้วยการทำความรู้จักกับ “ระบบเผาผลาญ” (Metabolism) คือ กระบวนการที่ร่างกายเราเผาผลาญพลังงานจากอาหารที่เรารับประทานเข้าไปให้เป็นพลังงานสำหรับการทำงานต่างๆ ของร่างกาย เช่น การหายใจ การทำงานของกล้ามเนื้อ การเคลื่อนไหว การนอนหลับ รวมถึงการย่อยอาหาร หรือการเผาผลาญแคลอรีด้วยเช่นกัน
แล้วระบบเผาผลาญพังล่ะคืออะไร? “ระบบเผาผลาญพัง” (Metabolic Damage) คือ ภาวะที่ระบบเผาผลาญของเราเสื่อมสภาพ หรือร่างกายเผาผลาญพลังงานได้ช้าลง ทำให้สารอาหารที่เรารับประทานเข้าไปไม่ถูกเผาผลาญออกมาเป็นพลังงาน หรือนำเอาพลังงานไปใช้ได้น้อยกว่าปกติ และพลังงานเหล่านั้นจะถูกเก็บสะสมเอาไว้ในรูปแบบของไขมันตามส่วนต่างๆ ของร่างกายแทน ส่งผลให้การลดน้ำหนักยากขึ้น หรือน้ำหนักไม่ยอมลงแม้จะพยายามควบคุมอาหารแล้ว
สาเหตุที่ทำให้ระบบเผาผลาญพังมีอะไรบ้าง?
ระบบเผาผลาญพัง เกิดได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน โดยอาจสรุปได้ดังนี้
- อายุที่มากขึ้น เมื่อเราอายุมากขึ้น ระบบเผาผลาญของเราจะช้าลงไปตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นผลจากการลดลงของมวลกล้ามเนื้อในร่างกาย ทำให้อัตราการเผาผลาญพลังงานลดลงหรือระบบเผาผลาญพังนั่นเอง
- ความเครียดและการพักผ่อนไม่เพียงพอ การนอนน้อยหรือมีความเครียดมากเกินไป จะส่งผลต่อฮอร์โมนที่ควบคุมการเผาผลาญ ทำให้ร่างกายไม่สามารถเผาผลาญพลังงานได้อย่างเต็มที่ แล้วเกิดปัญหาระบบเผาผลาญพังได้ในที่สุด
- การลดน้ำหนักผิดวิธี เช่น การอดอาหารมากเกินไปหรือลดแคลอรีแบบเข้มงวด จะทำให้ร่างกายเข้าสู่โหมดประหยัดพลังงาน ซึ่งเป็นการชะลอการเผาผลาญพลังงานของร่างกายเพื่อรักษาพลังงานไว้
- ออกกำลังกายไม่สมดุล หากเราออกกำลังกายมากไป หรือออกกำลังกายไม่เพียงพอ ก็จะส่งผลให้ระบบเผาผลาญพัง เพราะร่างกายไม่มีการเคลื่อนไหวอย่างเหมาะสม ระบบเผาผลาญก็จะพัง หรือทำงานได้ช้าลง
- โรคเกี่ยวกับฮอร์โมนบางอย่าง เช่น ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ จะทำให้ระบบเผาผลาญพังหรือการเผาผลาญพลังงานของร่างกายช้าลง และมีความเสี่ยงที่น้ำหนักตัวจะเพิ่มขึ้นด้วย
- ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ มีส่วนทำให้ระบบเผาผลาญพังหรือทำงานผิดปกติ เพราะแอลกอฮอล์จะเข้าไปขัดขวางการทำงานของระบบเผาผลาญไขมัน และทำให้ระบบทางเดินอาหารดูดซึมสารอาหาร แร่ธาตุ และวิตามินได้น้อยลง
ภาวะระบบเผาผลาญพัง ส่งผลกระทบอะไรได้บ้าง?
- น้ำหนักขึ้นง่าย เมื่อระบบเผาผลาญพัง หรือระบบเผาผลาญทำงานได้ไม่เต็มที่ จะทำให้ร่างกายสะสมพลังงานส่วนเกินได้ง่ายขึ้นด้วย
- เสี่ยงเป็นโรคต่างๆ เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคความดัน เข่าเสื่อม เป็นต้น เนื่องจากระบบเผาผลาญที่เสื่อมสภาพอาจทำให้ร่างกายจัดการกับน้ำตาลและไขมันได้ไม่ดี จึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ ตามมา
- สุขภาพจิตเสื่อมโทรม อาการรู้สึกเหนื่อยล้าง่าย ร่างกายไม่สดชื่น จนไม่มีแรงทำกิจกรรมต่างๆ หรือร่างกายมีพลังงานต่ำ อาจส่งผลกระทบทำให้เรารู้สึกหงุดหงิดหรือไม่มีแรงจูงใจในการทำสิ่งต่างๆ ด้วยนั่นเอง
ระบบเผาผลาญพัง มีอาการเป็นอย่างไร?
จะรู้ได้ยังไงว่าเรา ระบบเผาผลาญพัง ลองสังเกตตัวเองได้จากอาการต่างๆ เหล่านี้เลย
- น้ำหนักไม่ลด แม้ควบคุมอาหารและออกกำลังกาย ใครที่ระบบเผาผลาญพังแม้จะควบคุมอาหารและออกกำลังกายเป็นอย่างดีแล้ว แต่น้ำหนักตัวก็ไม่ลดอย่างที่ตั้งใจไว้ หรือใครที่ไม่ค่อยออกกำลังกายหรือขยับตัวน้อยพลังงานที่เหลืออยู่ก็จะเปลี่ยนเป็นไขมันไปสะสมตามร่างกาย ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้น แม้กินอาหารเท่าเดิมนั่นเอง
- รู้สึกเหนื่อยง่ายและขาดพลังงาน การที่ระบบเผาผลาญพังอาจทำให้พลังงานในร่างกายต่ำลง และส่งผลให้รู้สึกอ่อนเพลียแม้จะทำกิจกรรมเล็กๆ น้อยๆ รวมทั้งอาจทำให้รู้สึกง่วงนอนตลอดเวลา
- รู้สึกหิวบ่อยหรืออยากอาหารมากขึ้น การเผาผลาญช้า หรือระบบเผาผลาญพัง จะทำให้ร่างกายต้องการพลังงานเสริม จึงเกิดความหิวบ่อยๆ โดยเฉพาะอยากอาหารหวานตลอดเวลา
- การย่อยอาหารช้า เมื่อระบบเผาผลาญพัง หรือทำงานไม่ดี ก็จะส่งผลต่อการย่อยอาหารทำให้ย่อยอาหารได้ช้าลง ส่งผลให้มีปัญหาเกี่ยวกับระบบการย่อยอาหาร เช่น ท้องอืด หรือรู้สึกแน่นท้อง ท้องผูก เป็นต้น
- ผิวพรรณแห้งกร้าน ผมเปราะบาง ผมหลุดร่วงง่าย ระบบเผาผลาญพัง หรือทำงานไม่เหมือนปกติ อาจส่งผลให้การทำงานของระบบฮอร์โมนภายในร่างกายลดลงด้วย แล้วส่งผลทำให้ผิวพรรณหยาบกร้าน ขาดความชุ่มชื้น และผมหลุดร่วงได้ง่ายตามมา
- ประจำเดือนมาไม่ปกติ ผู้หญิงที่ระบบเผาผลาญพัง จะทำให้มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนไทรอยด์ แล้วส่งผลต่ออาการประจำเดือนที่ผิดปกติ
หากคุณมีอาการเหล่านี้ ก็อาจจะเป็นไปได้ว่า ระบบเผาผลาญของคุณเริ่มพังแล้ว และถึงเวลาที่ต้องซ่อมแซมระบบเผาผลาญพังให้กลับมาทำงานได้ดีขึ้นเหมือนเดิมแล้ว
ซ่อม “ระบบเผาผลาญพัง” ทำวิธีไหนได้บ้าง?
ระบบเผาผลาญพังแก้ยังไงดี? อยากฟื้นฟูระบบเผาผลาญให้กลับมาทำงานได้ดีเหมือนเดิมต้องทำอย่างไร เราไปดูกันเลย!
- พักผ่อนให้เพียงพอ
เริ่มที่การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งการพักผ่อนที่เพียงพอนี้จะช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูระบบเผาผลาญและช่วยกระตุ้นกระบวนการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ พร้อมลดระดับฮอร์โมนความเครียดได้ - ออกกำลังกายเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ
การเพิ่มกล้ามเนื้อด้วยการออกกำลังกายที่เหมาะสม เช่น การยกน้ำหนัก หรือเวทเทรนนิ่ง จะช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อและช่วยให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้มากขึ้น เพราะกล้ามเนื้อต้องการพลังงานมากกว่าไขมัน - ปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร
เน้นรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น เนื้อสัตว์ ถั่ว เต้าหู้ เพราะโปรตีนจะช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงานและรักษากล้ามเนื้อ และควรหลีกเลี่ยงการอดอาหาร รวมทั้งควรเปลี่ยนจากการทานมื้อใหญ่ๆ หนักๆ แล้วแบ่งย่อยเป็นมื้อเล็กๆ ให้เพียงพอต่อการเผาผลาญของร่างกาย - ดื่มน้ำเยอะๆ ให้เพียงพอต่อร่างกาย
ควรดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เพราะน้ำจะช่วยเร่งการเผาผลาญแคลอรีและช่วยกำจัดของเสียออกจากร่างกาย ซึ่งหากดื่มน้ำไม่เพียงพอก็จะทำให้ระบบเผาผลาญพังได้ - ฝึกการจัดการความเครียด
หากปล่อยให้ตัวเองมีความเครียดมากเกินไป จะมีผลกระทบทำให้ระบบเผาผลาญพัง หรือทำงานผิดปกติได้ และความเครียดยังทำให้เราหิวบ่อยจึงเสี่ยงทำให้น้ำหนักขึ้นง่าย ดังนั้น ควรหากิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลาย ทำให้อารมณ์แจ่มใส หรือฝึกทำสมาธิก่อนนอน - ดื่มชาเขียวช่วยเพิ่มการเผาผลาญ
อีกหนึ่งทริคที่จะช่วยซ่อมระบบเผาผลาญพังให้กลับมาดีขึ้น โดยการดื่มชาเขียว ซึ่งชาเขียวจะประกอบไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่า คาเทชิน (Catechins) และคาเฟอีน ที่มีบทบาทสำคัญในการช่วยกระตุ้นและเพิ่มอัตราการเผาผลาญไขมันได้ และช่วยในการควบคุมน้ำหนักด้วย แต่ต้องดื่มแบบไม่หวานและไม่ใส่นม
แนะนำ IV Weight Loss ตัวช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมัน
อีกหนึ่งเคล็ดลับสำหรับใครที่ระบบเผาผลาญพัง แต่ไม่รู้จะแก้ปัญหาอย่างไรดี เราขอแนะนำ IV Weight Loss ตัวช่วยควบคุมน้ำหนัก และเพิ่มการเผาผลาญไขมัน ซึ่งโปรแกรม IV Weight Loss เป็นการดริปวิตามิน IV Drip สูตรกระตุ้นการเผาผลาญไขมันสูตรใหม่จาก SparSha โดยจะเป็นการให้วิตามินและสารอาหารทางหลอดเลือดดำเหมือนการให้น้ำเกลือทั่วไป ที่จะช่วยให้ร่างกายสามารถเผาผลาญไขมันสะสมได้ดียิ่งขึ้น พร้อมช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และช่วยควมคุมความหิวและลดความอยากอาหาร เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมประสิทธิภาพการลดน้ำหนักควบคู่กับการควบคุมอาหารและออกกำลังกาย
IV Weight Loss มีส่วนประกอบสำคัญอะไรบ้าง?
- L-Carnitine
L-Carnitine หรือ แอลคาร์นิทีน เป็นสารประกอบที่ร่างกายผลิตขึ้นโดยธรรมชาติที่ตับและไต มีหน้าที่สำคัญในการขนส่งกรดไขมันไปยังเซลล์เพื่อใช้เป็นพลังงาน ทำให้เกิดกระบวนการเผาผลาญไขมันในร่างกาย พร้อมช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ และลดความเหนื่อยล้า จึงเป็นตัวช่วยสำคัญที่จะช่วยควบคุมน้ำหนักหรือเพิ่มพลังงานระหว่างออกกำลังกายได้ - Alpha-Lipoic Acid
กรดอัลฟาไลโปอิก หรือ Alpha-Lipoic Acid (ALA) มีหน้าที่หลักในการช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงานของเซลล์และช่วยในการเปลี่ยนน้ำตาลกลูโคสให้เป็นพลังงาน ทำให้ร่างกายมีพลังงานเพิ่มขึ้น พร้อมช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาลในกระแสเลือดได้ดี และช่วยในการซ่อมแซมกล้ามเนื้อจากการออกกำลังกาย จึงถือว่าเป็นตัวช่วยในการลดน้ำหนักได้ดี - Vitamin B Complex
Vitamin B Complex มีส่วนช่วยให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมบำรุงระบบประสาทและสมอง และมีส่วนช่วยเร่งให้ระบบเผาผลาญทำงานได้มากขึ้น โดยการช่วยเปลี่ยนสารอาหารมาใช้เป็นพลังงาน อีกทั้งยังทำให้ร่างกายสดชื่น ลดอาการอ่อนเพลีย และลดความเครียดลงได้ - Vitamin B12
Vitamin B12 ช่วยในกระบวนการระบบเผาผลาญพลังงาน ทำให้ร่างกายสามารถนำสารอาหารไปใช้ได้เต็มประสิทธิภาพ และทำให้มีพลังงานเพียงพอสำหรับการทำกิจกรรมต่างๆ รวมทั้งช่วยลดความอ่อนล้าและอ่อนเพลีย และส่งเสริมการทำงานของระบบประสาทและสมอง เมื่อระบบประสาททำงานได้ดี ก็จะทำให้ร่างกายสามารถปรับระบบการเผาผลาญได้อย่างเหมาะสมด้วย
ข้อดีของ IV Weight Loss
- ช่วยปรับระบบเผาผลาญของเซลล์ให้ดีขึ้น
- ช่วยในการสลายไขมันสะสมและเสริมสร้างกล้ามเนื้อไปพร้อมกัน
- ช่วยลดน้ำหนัก และควมคุมความหิว
- ช่วยเปลี่ยนไขมันมาเป็นพลังงานให้ร่างกายนำกลับมาใช้
- เพิ่มสมรรถภาพในการออกกำลังกาย และการทำงานของสมอง
- ลดความเหนื่อยล้า ช่วยให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า
ระบบเผาผลาญพัง อุปสรรคต่อการลดน้ำหนัก สำหรับใครที่มีปัญหาลดน้ำหนักยังไงก็ไม่ลง ลองเช็กดูว่าระบบเผาผลาญพังหรือไม่? ซึ่งหากพบว่าระบบเผาผลาญมีปัญหา ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย หรือทำตามวิธีซ่อมแซมระบบเผาผลาญที่เรากล่าวมาตามข้างบนได้ และหากสนใจตัวช่วยเสริมอย่าง IV Weight Loss ดริปวิตามินสูตรกระตุ้นการเผาผลาญไขมัน ที่จะช่วยให้ระบบเผาผลาญของเรากลับมาทำงานได้ดีอีกครั้ง ก็สามารถเข้ามาปรึกษากับคุณหมอของเราที่สปาชาได้ทุกสาขาค่ะ