ปัญหาผิวที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงวัยย่อมมีความแตกต่างกันไป อย่างที่หลายๆ คนสังเกตเห็นว่า ผิววัยเด็กของเราจะดูสดใส เนียนนุ่ม แต่พออายุมากขึ้นเซลล์ผิวก็จะเริ่มเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา ส่งผลให้ผิวหน้าไม่สดใส มีริ้วรอย ใบหน้าหย่อนคล้อยตามมาได้ง่าย การดูแลหรือบำรุงผิวด้วยสกินแคร์อย่างเดียวก็อาจจะไม่สามารถซึมลึกเข้าไปจัดการปัญหาผิวเหล่านี้ได้ “หัตถการความงาม” จึงเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยเคล็ดลับหน้าเด็ก ที่จะช่วยให้ผิวสุขภาพดี ผิวสวยสมวัย พร้อมกับช่วยสร้างความมั่นใจให้กับตัวเองมากขึ้นด้วย ซึ่งอายุเท่านี้ ดูแลผิวอย่างไรดี? หัตถการไหนที่ตอบโจทย์ วันนี้ SparSha จะขอมาแนะนำทุกคนกันค่ะ
ความสำคัญในการดูแลใบหน้าและผิวพรรณให้สวยสมวัย
ผิวของเราถูกทำลายจากปัจจัยภายนอกอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นมลภาวะ ฝุ่น ควัน รังสี UV จากแสงแดด แสงจากหลอดไฟหรือจากหน้าจอมือถือ และการมีความเครียด อีกทั้งผิวพรรณของเรายังมีการเปลี่ยนแปลงไปตามแต่ละช่วงอายุ ซึ่งสามารถสังเกตได้ง่ายๆ ในตอนที่เราอายุยังน้อย หรืออยู่ในช่วงวัยรุ่น ผิวพรรณอาจจะยังเปล่งปลั่ง แต่ก็อาจมีปัญหาผิวด้านอื่น อย่างการมีสิว และเริ่มมีริ้วรอยเล็กน้อย แต่เมื่ออายุเริ่มเพิ่มขึ้น ก็จะเจอกับปัญหาผิวในด้านอื่นๆ ตามมา หรือมีปัญหาผิวมากขึ้น เนื่องจากคอลลาเจนในชั้นผิวก็จะเริ่มลดลงและผลิตได้ช้าลง ปัญหาผิวไม่กระจ่างใส หมองคล้ำ ริ้วรอย และความหย่อนคล้อย จนทำให้ผิวดูแก่กว่าวัยได้ ดังนั้น หากไม่ต้องการให้มีปัญหาผิวก่อนวัย และอยากมีสุขภาพผิวที่ดี หน้าเด็ก ผิวสวยสมวัย ก็ต้องมีการดูแลผิวให้เหมาะสมตามช่วงอายุ
อายุเท่านี้ ดูแลผิวอย่างไรดี? รวมปัญหาผิวที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วย
หน้าเด็กกว่าอายุจริง ใครๆ ก็ชอบ เพราะฉะนั้นมารู้จักกับปัญหาผิวของแต่ละช่วงอายุ แล้วรีบป้องกันและแก้ไขให้ทัน ก่อนที่จะแก้ยากเกินไป ตามที่ทราบกันไปแล้วว่า ผิวแต่ละช่วงอายุก็จะมีปัญหาที่แตกต่างกันออกไป บางคนก็อาจจะใช้วิธีการแต่งหน้าหนาๆ เพื่อปกปิดรอยสิว หรือริ้วรอยต่างๆ แต่หากมีริ้วรอยร่องลึกมากก็อาจจะปิดได้ไม่มิดเท่าที่ควร จนสุดท้ายก็ทำให้หมดความมั่นใจไปเหมือนเดิม ดังนั้นมาดูกันว่าจะมีวิธีดูแลผิวตัวเองอย่างไร และมีหัตถการไหนบ้างที่เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัย เพื่อดูแลให้ผิวสวยและหน้าเด็กแบบไม่ห่วงอายุจริง
ช่วงอายุ 20+
ปัญหาผิวที่พบ
นับว่ายังเป็นช่วยวัยใส ผิวยังมีความแข็งแรง ยังคงมีคอลลาเจนในผิวเยอะ หากมีการดูแลผิวที่ดีก็จะช่วยให้ผิวนุ่มเด้ง ห่างไกลจากริ้วรอยและรอยเหี่ยวย่นได้ แต่ช่วงวัยนี้มักจะพบกับปัญหาสิว ผิวมัน เนื่องจากเป็นช่วงวัยที่ฮอร์โมนเพศมีการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติ ส่งผลให้ต่อมไขมันบริเวณผิวผลิตมาก ทำให้เกิดผิวมัน รูขุมขนกว้าง และเมื่อเข้าสู่วัย 20 ปลายๆ คอลลาเจนและความยืดหยุ่นของผิวก็จะเริ่มลดลงเรื่อยๆ เช่นกัน จึงเริ่มปรากฎเป็นริ้วรอยบางๆ และผิวหมองคล้ำเพิ่มมากขึ้น
หัตถการที่แนะนำ
ช่วงอายุ 20 ต้นๆ เป็นวัยที่ผิวยังคงมีความแข็งแรง คอลลาเจนยังคงมีอยู่พอสมควร แต่เมื่อถึงช่วง 20 ปลายๆ ก็อาจจะเริ่มมีปัญหาผิวที่มากขึ้น อาจพบริ้วรอยตื้นๆ ผิวหมองคล้ำตามมา ซึ่งการดูแลผิวให้สุขภาพดีตั้งแต่เนิ่นๆ ก็จะช่วยให้ผิวสวย หน้าเด็ก ดูสมวัย ดังนั้น สำหรับช่วงอายุ 20+ จะเหมาะกับการทำหัตถการดังนี้
- Miracle Caviar Bright โปรแกรมทรีตเมนต์หน้าใสบำรุงลึกถึงระดับเซลล์ผิว ด้วยสารสกัดไข่ปลาคาเวียร์แท้นำเข้าจากประเทศเยอรมัน ทำงานร่วมกับเทคโนโลยี Electroporation คลื่นไฟฟ้าที่จะช่วยส่งพลังงานและผลักสารอาหารให้ซึมลึกเข้าสู่ผิวภายในได้อย่างล้ำลึกถึงระดับเซลล์ผิว ช่วยให้ผิวกระชับ รูขุมขนเล็กลง รอยดำและรอยแดงจากสิวจางลง ช่วยลดเม็ดสี ปรับผิวให้กระจ่างใสไร้สิว มีผิวที่เนียนนุ่มและชุ่มชื้นขึ้น
ความถี่ในการทำ : ทุกๆ 1-2 สัปดาห์
ผลลัพธ์อยู่ได้นาน : เห็นผลการเปลี่ยนแปลงของผิวหน้าตั้งแต่ทำครั้งแรก และจะคงประสิทธิภาพไว้ได้ยาวนาน หากทำอย่างต่อเนื่อง - ฟิลเลอร์ สารเติมเต็ม Hyaluronic Acid หรือ HA ช่วยเติมเต็มหรือเสริมชั้นในผิวหนังและใต้ผิวหนัง แก้ไขปัญหาผิวที่มีริ้วรอยและเติมเต็มร่องลึกบริเวณต่างๆ ของใบหน้า และมีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำ เพิ่มเส้นใยคอลลาเจนให้กับผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้น กระชับ เปล่งปลั่ง พร้อมปรับรูปหน้าให้มีมิติ แลดูอ่อนเยาว์ขึ้น
ความถี่ในการทำ : สามารถกลับมาเติมซ้ำได้ แต่ควรเว้นระยะห่างประมาณ 2-4 สัปดาห์
ผลลัพธ์อยู่ได้นาน : ประมาณ 8-12 เดือน - IV Drip นวัตกรรมเติมวิตามินผิว เป็นการให้วิตามิน แร่ธาตุ และสารอาหารที่มีประโยชน์เข้าสู่ร่างกายโดยตรง ซึ่งร่างกายจะสามารถดูดซึมวิตามินได้ 100% โดยโปรแกรม IV Drip ที่ SparSha มีให้เลือกถึง 10 สูตรด้วยกัน ซึ่งจะช่วยดูแลทั้งเรื่องสุขภาพและผิวพรรณ ให้ผิวดูกระจ่างใส ผิวแข็งแรงมากขึ้น พร้อมช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน และล้างสารพิษต่างๆ ในร่างกาย
ความถี่ในการทำ : แนะนำทุก 1- 2 สัปดาห์ ต่อเนื่องกันอย่างน้อย 4-5 ครั้ง
ผลลัพธ์อยู่ได้นาน : ประมาณ 1-2 เดือน
ช่วงอายุ 30+
ปัญหาผิวที่พบ
เป็นช่วงวัยที่เกาะป้องกันเริ่มผิวอ่อนแอลง คอนลาเจนและอิลาสตินจะค่อยๆ เริ่มเสื่อมลง รวมทั้งการผลัดเซลล์ผิวและการสร้างเซลล์ผิวใหม่ลดน้อยลงด้วย ส่งผลให้มีปัญหาเรื่องริ้วรอยตื้นๆ บนใบหน้าเกิดขึ้นเรื่อยๆ และเริ่มเห็นได้ชัด ความยืดหยุ่นของผิวลดลง ผิวหยาบกร้านขาดความชุ่มชื้น มีปัญหาหน้าหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ มีฝ้า กระ จุดด่างดำ และผิวเริ่มหย่อนคล้อยเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
หัตถการที่แนะนำ
เมื่อเข้าสู่ช่วงวัย 30+ ผิวของเราก็จะเริ่มมีปัญหาริ้วรอยเพิ่มมากขึ้น และผิวเริ่มหย่อนคล้อยลง ผิวดูไม่สดใส ไม่ชุ่มชื้น จึงเป็นวัยที่ต้องดูแลผิวให้ดีมากขึ้น เพื่อชะลอความแก่และฟื้นบำรุงผิวให้ดูอ่อนกว่าวัยขึ้น โดยมีหัตถการที่แนะนำดังนี้
- Ultraformer III นวัตกรรมเครื่องยกกระชับผิว ลดริ้วรอย และปรับรูปหน้า V-Shape ซึ่งเป็นการใช้เทคโนโลยีกระชับผิวหน้าและสลายไขมันใต้ชั้นผิวที่สามารถผลิตคลื่นเสียงความถี่สูงที่มีความเฉพาะเจาะจง โดยให้ความร้อนที่ 65-70 องศา ลงไปใต้ชั้นผิวลึกถึงชั้น SMAS เพื่อกระตุ้นให้เกิดการยกกระชับในทุกชั้นผิวหนัง ทำให้ผิวยกกระชับขึ้นและช่วยสลายไขมัน ริ้วรอยจึงลดเลือนลง พร้อมกระชับผิวหน้าและปรับรูปหน้าให้ตึงเข้ารูป
ความถี่ในการทำ : สามารถทำซ้ำได้ทุก 3-6 เดือน
ผลลัพธ์อยู่ได้นาน : ประมาณ 6-10 เดือน - โบลดริ้วรอย เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่สกัดจากแบคทีเรียชื่อว่า ครอสตริเดียม โบทูลินั่ม มีคุณสมบัติออกฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อ ทำให้มัดกล้ามเนื้อทำงานลดลงชั่วคราว ลดการขยับของกล้ามเนื้อ เมื่อแสดงสีหน้าต่างๆ จึงไม่ทำให้เกิดรอยพับ และช่วยลดริ้วรอยเหี่ยวย่น เช่น รอยย่นบริเวณหน้าผาก รอบดวงตา หางตา ตีนกา เป็นต้น อีกทั้งยังช่วยปรับรูปหน้า ลดกราม ทำให้กรอบหน้าชัดขึ้น ใบหน้าดูวีเชฟและดูอ่อนกว่าวัย
ความถี่ในการทำ : ควรเว้นระยะห่างจากครั้งล่าสุดให้เหมาะสมอย่างน้อย 3-4 เดือน แต่ไม่ควรเกิน 5-6 เดือน
ผลลัพธ์อยู่ได้นาน : ประมาณ 3-6 เดือน และสามารถสลายหมด 100% โดยไม่มีสารตกค้าง - Radiesse นวัตกรรมสารฉีดกระตุ้นการสร้างเส้นใยตาข่ายผิวใหม่ ที่มีส่วนประกอบหลักคือสาร Calcium Hydroxylapatite หรือ CaHA ช่วยให้เกิดการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ชั้นผิว ทำให้ผิวอิ่มฟู ดูอ่อนเยาว์ ลดเลือนริ้วรอย เติมเต็มร่องลึก และช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยให้แน่นเฟิร์ม
ความถี่ในการทำ : แนะนำให้ฉีด Radiesse ติดต่อกัน 1-3 ครั้งขึ้นไป โดยเว้นห่างแต่ละครั้งอย่างน้อย 1 เดือน
ผลลัพธ์อยู่ได้นาน : ประมาณ 2 ปี
ช่วงอายุ 40+
ปัญหาผิวที่พบ
เป็นช่วงวัยที่จะพบกับปัญหาผิวมากที่สุด คอลลาเจนในผิวจะลดลงไปอย่างรวดเร็ว โครงสร้างผิวหนังที่เคยตึงกระชับก็จะเกิดการหย่อนยานลง และผิวเริ่มเปาะบางมากขึ้น มีปัญหาเรื่องฝ้า กระ จุดด่างดำ ริ้วรอยร่องลึกบนใบหน้าที่ชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะบริเวณรอบดวงตา และเกิดภาวะผิวขาดน้ำ มีการสูญเสียน้ำของผิวมาก ทำให้ผิวแห้งกร้าน ผิวขาดความกระชับ ไม่เรียบตึง ผิวไม่อิ่มเอิบ และใบหน้าเหี่ยวย่นดูมีอายุ
หัตถการที่แนะนำ
พออายุเพิ่มมากขึ้นจนถึงวัย 40+ ปัญหาผิวก็จะเริ่มมีเพิ่มมากขึ้นตามมาด้วย โดยช่วงวัยนี้ต้องใส่ใจดูแลและบำรุงผิวตัวเองมากเป็นพิเศษ เพื่อให้สุขภาพผิวดูดี ผิวสวยดูสมวัย ซึ่งการดูแลผิวด้วยสกินแคร์อย่างเดียวก็อาจจะไม่ดีมากเท่าที่ควร ช่วงวัยนี้จึงต้องมีตัวช่วย ซึ่งก็คือหัตถการความงามดังนี้
- Ultherapy นวัตกรรมยกกระชับผิว แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ลดริ้วรอย ปรับรูปหน้าเรียว ด้วยคลื่นอัลตราซาวด์ (Ultrasound) พลังงานสูง ส่งผ่านความร้อนไปยังชั้น SMAS ทำให้เกิดการหดตัวและเกิดการยกกระชับขึ้นทันที พร้อมช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ และช่วยก่อให้เกิดกระบวนการซ่อมแซมของผิวตามธรรมชาติ ทำให้ผิวได้รับการฟื้นฟู ผิวตึงกระชับ ยกหางตาตก ยกกรอบหน้าที่หย่อนคล้อย ลดปัญหาร่องแก้ม ปรับผิวเรียบเนียนสดใส ทำให้ผิวดูสุขภาพดีและอ่อนเยาว์ขึ้น
ความถี่ในการทำ : สามารถทำซ้ำได้ทุก 6 เดือน
ผลลัพธ์อยู่ได้นาน : ประมาณ 6-12 เดือน - Sculptra นวัตกรรมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ฟื้นคืนผิวเด็กอย่างมีคุณภาพ ที่ประกอบด้วยอนุภาคของกรด Poly-L-Lactic Acid (PLLA) จัดอยู่ในกลุ่ม Collagen Biostimulator เป็นสารฉีดกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ในชั้นผิวตามกระบวนการธรรมชาติ โดยจะช่วยกระตุ้นคอลลาเจน Type 1 ได้ถึง 66.5% ทดแทนคอลลาเจนที่สูญเสียไปเมื่ออายุมากขึ้น ทำให้ผิวกระชับ เต่งตึง เพิ่มความกระจ่างใสให้ผิว ผิวหน้าเด็กลง ผิวแน่นอิ่มฟู และลดเลือนริ้วรอยให้จางลง
ความถี่ในการทำ : ควรทำทุก 4-6 สัปดาห์ และทำครบคอร์สฉีดจำนวน 2-3 ครั้ง
ผลลัพธ์อยู่ได้นาน : ประมาณ 25 เดือน - โบลดริ้วรอย เพื่อแก้ปัญหาริ้วรอยต่างๆ บนใบหน้า ช่วยลดริ้วรอยให้จางลง ผิวหน้าเรียบเนียนและเต่งตึงขึ้น โดยเฉพาะรอยพับบริเวณหน้าผาก รอยตีนกา หรือปัญหาริ้วรอยเล็กๆ รอบหางตาและโบลิฟกรอบหน้า เพื่อช่วยยกกระชับหน้าทำให้กรอบหน้าชัดขึ้น ช่วยลดเหนียงและลดแก้มที่ห้อย ส่งผลให้ใบหน้าดูมีมิติขึ้น
ความถี่ในการทำ : ควรเว้นระยะห่างอย่างน้อย 3-4 เดือน แต่ไม่ควรเกิน 5-6 เดือน
ผลลัพธ์อยู่ได้นาน : ประมาณ 3-6 เดือน และสามารถสลายหมด 100% โดยไม่มีสารตกค้าง - ฟิลเลอร์ใต้ตา เมื่อคนเราอายุมากขึ้น บริเวณใต้ตากระดูกจะยุบตัวลง ทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อย หน้าดูโทรม เห็นร่องใต้ตาชัดเจน โปรแกรมฟิลเลอร์จึงจะช่วยเติมเต็มร่องลึกบริเวณใต้ตา แก้ปัญหาเบ้าตาลึก ตาโหล ช่วยลดรอยคล้ำ ริ้วรอยรอบดวงตา ทำให้ดวงตากลับมาอิ่มฟูและใบหน้าดูสดใสอีกครั้ง
ความถี่ในการทำ : เมื่อฟิลเลอร์เริ่มสลายไป สามารถกลับมาเติมได้ แต่ควรเว้นระยะห่างประมาณ 2-4 สัปดาห์
ผลลัพธ์อยู่ได้นาน : ประมาณ 6-12 เดือน
อย่างที่ทราบกันไปแล้วว่า แต่ละช่วงอายุมักจะเจอกับปัญหาผิวที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งการดูแลผิวให้เหมาะสมกับวัย หรือการบำรุงผิวไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้เรามีสุขภาพผิวที่ดูดี หน้าดูเด็ก และชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัยได้ อีกทั้งในปัจจุบันยังมีนวัตกรรมมากมายที่จะช่วยดูแลผิวของเราได้อย่างอ่อนโยน และหากเลือกทำหัตถการให้เหมาะสมกับช่วงวัย ก็จะช่วยแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้การดูแลตัวเองด้วยการเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงแสงแดด ไม่เครียด ก็จะช่วยให้ผิวหน้าและผิวพรรณของเราดูดียิ่งขึ้นค่ะ