หลังฉีดฟิลเลอร์ มีข้อห้าม-ข้อควรปฏิบัติในการดูแลตัวเองอย่างไร? เพื่อผลลัพธ์ที่ดี
การฉีดฟิลเลอร์ (Filler) เป็นหัตถการที่จะช่วยลดริ้วรอย เติมเต็มร่องลึกบนใบหน้า โดยการใช้สารเติมเต็ม Hyaluronic Acid หรือ HA ซึ่งเป็นสารเติมเต็มธรรมชาติที่พบในผิวหนังชั้นลึกในร่างกาย แต่จะมีปริมาณลดลงเมื่ออายุมากขึ้น ทางการแพทย์จริงสังเคราะห์ไฮยาลูโรนิกแอซิดขึ้นมา เพื่อช่วยทดแทนเส้นใยคอลลาเจนที่สลายไป ซึ่งฟิลเลอร์นี้จะช่วยในเรื่องของริ้วรอย ทำให้ผิวหน้ากลับมาเรียบเนียน เต่งตึง และเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว รวมทั้งยังนิยมฉีดเพื่อเติมเต็มรูปหน้า เติมร่องลึกให้ดูตื้นขึ้นในบริเวณต่างๆ ของใบหน้า ส่งผลให้รูปหน้าสมส่วนแลดูอ่อนเยาว์ขึ้นด้วย
ซึ่งหลังฉีดฟิลเลอร์ มีข้อห้ามและข้อควรปฏิบัติตัวอย่างไร ก็เป็นหนึ่งในคำถามยอดฮิตที่หลายคนถามกันเข้ามา เนื่องจากหลายคนอาจจะยังไม่ทราบข้อควรปฏิบัติ หรือข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ที่แน่ชัด เพราะการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์อย่างถูกต้องนั้น จะช่วยให้ฟิลเลอร์มีประสิทธิภาพได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และช่วยให้อยู่ได้นาน รวมทั้งช่วยลดความเสี่ยงของอาการไม่พึงประสงค์ SparSha จึงได้รวบรวมแนวทางการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามอะไรบ้าง มาให้ทุกคนได้อ่านกันในบทความนี้กันค่ะ
การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ ควรปฏิบัติตัวอย่างไรบ้าง?
ก่อนที่จะรู้จักข้อห้าม-ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ เราจะพาทุกคนไปรู้จักการเตรียมก่อนฉีดฟิลเลอร์ก่อน เพราะทั้งก่อนและหลังฉีดฟิลเลอร์ควรมีการเตรียมตัวที่ดี เพื่อให้ผลลัพธ์หลังทำออกมาดูดีที่สุดนั่นเอง ซึ่งการเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ก็สามารถทำได้ง่ายๆ ดังนี้
- แจ้งโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ยา หรือกำลังรับประทานยาและอาหารเสริมอะไรอยู่ให้แพทย์ทราบก่อนทุกครั้ง
- งดฉีดให้กับผู้ที่ตั้งครรภ์ หรือกำลังอยู่ในช่วงให้นมบุตร
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนฉีด 24 ชั่วโมง
- งดยาหรืออาหารเสริมที่ทำให้เลือดออกง่าย เช่น ยากลุ่มแอสไพริน NSAIDs วิตามินอี น้ำมันตับปลา แปะก๊วย โสม กระเทียม ประมาณ 1 อาทิตย์
- งดการนวดหน้า แว็กซ์ผิว ผลัดเซลล์ผิว รวมถึงการดึงหรือโกนขนบริเวณที่จะฉีด อย่างน้อย 3 วัน
ข้อปฎิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์ ควรทำอย่างไรบ้าง? ให้เข้าที่เร็วและคงอยู่ได้นาน
คำแนะนำสำหรับข้อควรปฎิบัติตัวและข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูดี เข้าที่เร็ว และคงอยู่ได้อย่างยาวนาน โดยจะมีข้อควรปฎิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์ดังนี้
- งดการกด นวด แกะ เกาบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ อย่างน้อย 48 ชั่วโมง
- งดการแต่งหน้าหรือใช้ครีมบำรุงทุกชนิด ประมาณ 24 ชั่วโมง
- ห้ามนอนราบหลังการฉีดฟิลเลอร์ 3-4 ชั่วโมง
- แนะนำให้อยู่ในที่อากาศเย็น และงดการออกกำลังกายอย่างหนัก หรืองดทำกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง เช่น การซาวน่า ตากแดด อย่างน้อย 48 ชั่วโมง
- หลังฉีดฟิลเลอร์มาประมาณ 6 ชั่วโมง บริเวณรอยฉีดฟิลเลอร์อาจบวมขึ้น สามารถประคบเย็นได้ โดยควรประคบเบาๆ ไม่ควรกดแรง
- ในช่วง 3 วันแรก หลังฉีดฟิลเลอร์พยายามอย่าขยับใบหน้าเยอะจนเกินไป โดยเฉพาะบริเวณที่ฉีด เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนได้
- งดเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิดหลังฉีดฟิลเลอร์ อย่างน้อย 1 เดือน
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ เนื่องจากสารในบุหรี่จะขัดขวางการสมานแผล แล้วส่งผลให้รอยเข็มหายบวมช้า
หลังฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไร อาหารชนิดไหนบ้างที่แนะนำให้กิน?
หลังฉีดฟิลเลอร์ มีทั้งอาหารที่ควรทานและไม่ควรทาน โดยเฉพาะผู้ที่ฉีดฟิลเลอร์ปากอาจจะต้องระวังมากเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นบริเวณที่มีการสัมผัสกับอาหารโดยตรง โดยอาหารที่ควรงดทานและควรทาน ได้แก่
อาหารที่ไม่ควรทานหลังฉีดฟิลเลอร์
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ประมาณ 2 สัปดาห์ เพราะแอลกอฮอล์จะทำให้เลือดสูบฉีดมากขึ้น และอาจทำให้เกิดภาวะหลอดเลือดขยายตัว จนเกิดอาการบวม รู้สึกปวด หรืออักเสบได้
- งดอาหารหมักดอง ประมาณ 2 สัปดาห์ เพราะจะเสี่ยงต่อการปนเปื้อนเชื้อโรค ซึ่งเมื่อเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายอาจจะไปกระตุ้นให้เกิดการอักเสบได้
- งดอาหารที่มีรสเค็มจัด เผ็ดจัด โซเดียมสูง เพราะอาหารที่มีรสชาติเหล่านี้มักจะดูดน้ำเข้าสู่ร่างกายค่อนข้างมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะบวมน้ำตามมาได้
- งดอาหารที่มีรสหวานจัด เนื่องจากอาหารรสหวาน หรือของหวาน จะไปกระตุ้นการอักเสบบนผิวหน้าได้ง่าย ส่งผลให้บริเวณรอยเข็มอาจเกิดการหายช้า
- งดอาหารประเภทปิ้งย่าง ชาบู หรืออาหารที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อนๆ เพราะความร้อนอาจส่งผลต่อการเข้าที่ของฟิลเลอร์ได้
- งดอาหารดิบ หรืออาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ เพราะอาจทำให้เกิดการอักเสบติดเชื้อตามมาได้ง่าย
อาหารที่ควรทานหลังฉีดฟิลเลอร์
- ดื่มน้ำเปล่ามากๆ อย่างน้อยวันละ 1.5-2 ลิตร เพื่อช่วยสมานแผลเร็วขึ้น และช่วยกระตุ้นคอลลาเจนแก่ผิว
- อาหารประเภทวิตามินเอ ซึ่งมักจะอยู่ในผักและผลไม้ที่มีสีเหลือง สีส้ม สีเขียว เช่น ฟักทอง ใบบัวบก มะละกอ แครอท มะม่วง ซึ่งจะช่วยสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ลดอาการบวม และอาการอักเสบได้
- อาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น เนื้อปลา ไก่ ไข่ นม ถั่ว อัลมอนด์ จะช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อ สร้างผิวหนังใหม่ให้มีความแข็งแรง ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ และช่วยให้ฟิลเลอร์เข้าที่ไว
- อาหารประเภทวิตามินซี เช่น ส้ม มะนาว สับปะรด ฝรั่ง กีวี และผลไม้ตระกูลเบอร์รี่
การฉีดฟิลเลอร์เป็นหัตถการที่ช่วยลดเลือนริ้วรอย เติมเต็มร่องลึกให้ตื้นขึ้น และยังช่วยทำให้ใบหน้าอ่อนเยาว์ขึ้นด้วย ซึ่งการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ก็ถือว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญ ผู้เข้ารับบริการทุกคนควรปฏิบัติตัวให้ถูกต้องตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ อยู่ได้นาน และไม่สลายไปเร็วนั่นเอง