Article

Sparsha

โบกมือลา “สิวอุดตัน” ทำหน้าพัง ผิวไม่เรียบเนียน ต้องเลี่ยงพฤติกรรมเหล่านี้!

ขึ้นชื่อว่า “สิว” ถือว่าเป็นปัญหาที่สร้างความรำคาญใจให้ใครหลายๆ คนไม่หยุดหย่อน โดยเฉพาะ “สิวอุดตัน” ที่แม้จะเป็นแค่สิวเม็ดเล็กๆ แต่เชื่อเถอะค่ะว่าถ้าหากเกิดขึ้นทั่วใบหน้าก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่นอน เพราะไม่เพียงแต่ทำให้หน้าไม่เรียบเนียน หรือคอยมากวนใจเราทุกครั้งที่ลูบใบหน้าแล้วต้องสะดุดกับผิวหน้าขรุขระ แต่หากสิวอุดตันลุกลามไปเป็นสิวอักเสบก็จะสามารถทิ้งจุดด่างดำ รอยสิว รอยแผลเป็น หรือแม้แต่หลุมสิวขนาดใหญ่ได้ อีกทั้งหากไม่รีบรักษา หรือดูแลผิวหน้าไม่ดีพอก็จะยิ่งทำให้ผิวแย่ลงไปอีก

ซึ่งหลายคนก็อาจจะยังไม่รู้ว่าสิวอุดตันเกิดจากอะไรกันแน่ แก้ยังไงดี วันนี้สปาชาจะพาทุกคนไปหาคำตอบ พร้อมคำแนะนำในการรักษาและป้องกัน และถ้าใครไม่อยากเป็นสิวอุดตันก็ต้องเลี่ยงพฤติกรรมผิดๆ ที่บางครั้งเราอาจจะเคยเผลอไปทำโดยไม่รู้ตัว ไปดูกันเลยว่าต้องทำอย่างไรบ้างที่จะช่วยให้ผิวหน้าเรากลับมาใสปิ๊ง

สิวอุดตัน คืออะไร?

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับสิวอุดตัน (Comedones) กันก่อนค่ะ ซึ่งสิวอุดตันเป็นหนึ่งในปัญหาสิวที่เกิดจากการอุดตันของรูขุมขน โดยมาจากการสะสมของน้ำมัน (Sebum) เซลล์ผิวที่ตายแล้ว แบคทีเรีย และสิ่งตกค้างที่อยู่ใต้ผิวหนัง ซึ่งปกติร่างกายของเราจะมีการผลิตไขมันออกมาตามรูขุมขนเพื่อปรับสมดุลให้กับร่างกาย แต่หากมีการอุดตัน ไขมันที่ผลิตขึ้นมาใหม่ก็จะไม่สามารถระบายออกมาได้ และถ้าเกิดการหมักหมมนานเข้าก็จะเกิดเป็นเม็ดสิวอุดตันขึ้นมานั่นเอง อีกทั้งหากไม่รีบทำการรักษาอย่างถูกต้องหรือมีการติดเชื้อเกิดขึ้น ก็สามารถพัฒนาจนกลายเป็นสิวอักเสบได้

สิวอุดตันกับสิวผดต่างกันอย่างไร?

หลายๆ คนอาจจะเข้าใจผิดว่าสิวอุดตันก็คือสิวผด แต่ความจริงแล้วสิวทั้งสองประเภทนี้มีความแตกต่างกัน คือ

  • สิวอุดตัน เกิดจากการอุดตันของรูขุมขนที่มาจากการสะสมของน้ำมันและเซลล์ผิวที่ตายแล้ว มีลักษณะเป็นตุ่มเล็กๆ อาจเป็นสิวอุดตันหัวดำ หรือสิวอุดตันหัวขาวก็ได้ 
  • สิวผด มักจะเกิดจากการระคายเคืองหรือการติดเชื้อบนผิวหนัง มีลักษณะเป็นตุ่มแดงเล็กๆ มักจะมีอาการคันหรือเจ็บร่วมด้วย

ลักษณะของสิวอุดตัน

สิวอุดตันมีลักษณะเป็นตุ่มนูนเล็กๆ ที่อาจมีสีขาวหรือสีดำ ขึ้นอยู่กับชนิดของสิวที่เกิดขึ้น และสามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้ในสิวอุดตันบางชนิด เมื่อลูบหรือสัมผัสดูจะรู้สึกนูนเป็นไตอยู่ใต้ผิวหนัง แต่ไม่รู้สึกเจ็บ

ชนิดของสิวอุดตัน

มารู้จักสิวอุดตันแต่ละชนิดกันบ้าง ซึ่งสิวอุดตันที่มักพบได้ทั่วไปนั้น สามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภท ดังนี้

  1. สิวอุดตันหัวดำ หรือสิวอุดตันหัวเปิด
    สิวอุดตันหัวดำ (Blackheads) หรือสิวอุดตันหัวเปิด (Open Comedone) มักเกิดจากการอุดตันของไขมันและเซลล์ผิวที่ตายแล้วในรูขุมขน ซึ่งจะมีการออกซิเดชั่นทำให้เปลี่ยนเป็นสีดำ มีลักษณะเป็นสิวหัวดำแข็งๆ อยู่ตรงกลาง สามารถมองเห็นอย่างชัดเจนด้วยตาเปล่า และหากปล่อยทิ้งไว้นานไม่รักษาก็จะทำให้รูขุมขนกว้างขึ้น และเป็นอักเสบตามมาได้
  2. สิวอุดตันหัวขาว หรือสิวอุดตันหัวปิด
    สิวอุดตันหัวขาว (Whiteheads) หรือสิวอุดตันหัวปิด (Closed Comedone) เป็นสิวอุดตันที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียและต่อมไขมันไปอุดตันในรูขุมขน แต่ไม่ได้โผล่ขึ้นมาสัมผัสกับออกซิเจนในอากาศ จึงไม่มีการแสดงออกมาเป็นสีดำ โดยจะมีลักษณะเป็นตุ่มนูนเล็กน้อย มีสีขาวอุดตันอยู่ในผิวหนัง มองเห็นไม่ชัดเท่าสิวอุดตันหัวดำ อีกทั้งสิวอุดตันหัวขาวจะมีรากสิวที่อยู่ลึกกว่าสิวอุดตันหัวดำ ซึ่งไม่มีรูเปิดและรักษายากกว่า หากปล่อยไว้นานอาจลุกลามกลายเป็นสิวอักเสบได้เช่นกัน
  3. สิวอุดตันไม่มีหัว 
    สิวอุดตันไม่มีหัว (Microcomedone) เป็นชนิดสิวอุดตันที่ไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน ซึ่งจะเกิดขึ้นเองได้ตามธรรมชาติ จากฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgen) ที่ถูกกระตุ้นจนทำให้เกิดการหลั่งไขมันออกมามากกว่าปกติ มักพบในช่วงวัยรุ่น มีลักษณะเป็นรอยสิวนูนแดงที่ไม่มีหัวสิวโผล่ขึ้นมาบริเวณด้านบนผิวหนัง และหากมีการสะสมของไขมัน หรือเซลล์ชั้นขี้ไคลมากขึ้นเรื่อยๆ ก็จะทำให้เกิดเป็นสิวอุดตันหัวเปิดหรือสิวอุดตันหัวปิด รวมทั้งหากมีเชื้อแบคทีเรียก็จะกลายเป็นสิวอักเสบตามมา

หยุด! พฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้เกิดสิวอุดตัน

รู้หรือไม่ว่าพฤติกรรมบางที่เราทำอยู่บ่อยๆ ในชีวิตประจำก็เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดสิวบนไปหน้า จนกลายเป็นสิวอุดตันได้ ซึ่งจะมีพฤติกรรมอะไรบ้าง เราไปดูกันเลยค่ะ

  • ล้างหน้าไม่สะอาดก่อนนอน – การล้างหน้าไม่สะอาดอาจทำให้มีการสะสมของน้ำมันและสิ่งสกปรกสะสมบนใบหน้า เพราะในแต่ละวันผิวหน้าของเราต้องเผชิญกับทั้งฝุ่นละออง แสงแดด และเครื่องสำอางต่างๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ใช่ไหมล่ะคะ ดังนั้น ก่อนนอนก็ควรทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดหมดจด และควรใส่ใจในการล้างหน้า ไม่ควรเร่งรีบ เพื่อให้มั่นใจว่าใบหน้าของเรานั้นสะอาดจริง ก็จะช่วยลดโอกาสการเกิดสิวอุดตันขึ้นได้
  • ใช้อุปกรณ์แต่งหน้าไม่สะอาด – อุปกรณ์หรือแปรงแต่งหน้าต่างๆ โดยเฉพาะสาวๆ ที่ต้องใช้แปรงแต่งหน้าทุกวันก็ควรที่จะมั่นใจว่าแปรงแต่งหน้าของเราสะอาดจริง เพราะแปรงแต่งหน้าถือว่าเป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรียได้ง่าย และยิ่งต้องเอามาสัมผัสกับใบหน้าเราทุกวัน สิวจะไม่เห่อขึ้นจนเป็นสิวอุดตันได้ยังไง ดังนั้น ควรทำความสะอาดแปรงแต่งหน้าอย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้เกิดสิวอุดตันตามมานะคะสาวๆ
  • เอามือสัมผัสผิวหน้าบ่อย – การใช้มือสัมผัสใบหน้าบ่อยๆ โดยเฉพาะเวลาเราดูอะไรเพลินๆ รู้ตัวอีกทีก็เอามือลูบหน้า หรือนั่งเท้าคางไปแล้ว ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งพฤติกรรมเสี่ยงที่จะทำให้เกิดสิวอุดตันได้ง่ายนั่นเอง เพราะมือของเราผ่านการจับสิ่งต่างๆ มานับไม่ถ้วน ก็จะยิ่งทำให้มีการสะสมของเชื้อโรคและเชื้อแบคทีเรียจำนวนมาก พอเอามาสัมผัสกับใบหน้าก็จะยิ่งทำให้เกิดสิวอุดตันบนหน้าได้ง่ายกว่าเดิม
  • ชอบทานอาหารที่มีแป้ง ไขมัน และน้ำตาลมากเกินไป – สาวๆ คนไหนที่ชอบทานขนมหวาน ที่มีทั้งแป้งทั้งน้ำตาลเยอะ บอกเลยว่าอาหารพวกนี้เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดสิวอุดตันได้ง่ายกันเลยทีเดียว เพราะอาหารที่มีน้ำตาลสูงหรืออาหารที่มีไขมันทรานส์ จะทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้น จนมีส่วนกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมัน ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ใบหน้ามันจนเกิดเป็นสิวอุดตัน และทำให้เกิดการอักเสบที่ผิวหนังจนทำให้เกิดสิวอักเสบตามมาได้ด้วย
  • ไม่ทำความสะอาดผ้าปูที่นอน – ใครที่ไม่ค่อยทำความสะอาดผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน หรือทำความสะอาดนานๆ ครั้ง บอกเลยว่าเป็นพฤติกรรมที่เสี่ยงให้เกิดสิวอุดตันบนผิวอย่างมาก เพราะทั้งผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าห่ม ล้วนเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค และยังส่งกลิ่นเหม็นอับอีก เมื่อผิวหน้าของเราสัมผัสกับสิ่งเหล่านี้ก็จะทำให้ผิวหน้าเกิดการระคายเคืองและเป็นสิวอุดตันได้ง่าย ดังนั้น อย่าชะล่าใจคิดว่าผ้าปูที่นอนและปลอกหมอนของเราสะอาดอยู่เสมอ ต้องหมั่นทำความสะอาดบ่อยๆ ด้วยนะคะ
  • การสูบบุหรี่ – การสูบบุหรี่ไม่เพียงแต่ทำร้ายสุขภาพ หรือก่อให้เกิดโรคต่างๆ เท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อผิวหนังของเราด้วยเช่นกัน เพราะควันบุหรี่มีสารที่จะกระตุ้นให้เกิดกระบวนการผลิตน้ำมันเพิ่มมากขึ้นที่ผิวหนัง จึงทำให้เกิดปัญหาสิวตามมา และเพิ่มโอกาสในการเกิดสิวอุดตันได้มากขึ้นนั่นเอง

สิวอุดตัน มักขึ้นตำแหน่งไหนบนใบหน้าได้บ้าง? 

สิวอุดตันสามารถเกิดขึ้นได้บนใบหน้าหลายจุด ซึ่งจุดที่พบได้บ่อยที่สุด ได้แก่

  • สิวอุดตันที่หน้าผาก
    นับว่าเป็นตำแหน่งบนใบหน้าที่พบสิวอุดตันได้บ่อยที่สุด โดยเฉพาะบริเวณที่เรียกว่า T-Zone ตรงหน้าผาก ที่มีการผลิตน้ำมันออกมาบนผิวมากกว่าบริเวณอื่น ทำให้เป็นจุดที่เกิดสิวได้ง่าย และหน้าผากยังเป็นตำแหน่งที่เสี่ยงต่อการอุดตันของสิ่งสกปรกต่างๆ จากทั้งเส้นผม หมวก หรือการใช้ผ้าโพกศีรษะ ที่อาจก่อให้เกิดความอับชื้นก็จะยิ่งกระตุ้นให้เกิดสิวอุดตันตามมา
  • สิวอุดตันที่แก้ม
    อีกหนึ่งจุดบนใบหน้ายอดฮิตที่มักเกิดสิวอุดตัน นั่นก็คือ แก้ม เพราะเป็นจุดที่ต้องเจอกับสิ่งสกปรกรอบตัวได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นการอุดตันจากเครื่องสำอาง การล้างหน้าไม่สะอาด การใช้แปรง พัฟ หรือฟองน้ำแต่งหน้าซ้ำๆ เส้นผมที่สะสมสิ่งสกปรก ปลอกหมอนหรือผ้าห่มที่ไม่ได้ทำความสะอาด หรือการสวมหน้าหน้ากากอนามัยเป็นเวลานาน สิ่งเหล่านี้จะทำให้เกิดการหมักหมมของสิ่งสกปรก รวมไปถึงมือที่ชอบนำมาสัมผัสหน้าบ่อยๆ ด้วยเช่นกัน
  • สิวอุดตันที่จมูก
    เป็นอีกหนึ่งบริเวณ T-Zone ที่ผลิตน้ำมันมาก จึงสามารถพบสิวอุดตันที่จมูกได้บ่อย โดยมักพบเป็นสิวอุดตันชนิดหัวเปิด มีลักษณะเป็นไตเล็กๆ แข็งๆ เวลาลูบที่จมูกจะสัมผัสถึงสิวอุดตันได้อย่างชัดเจน และมักพบสิวอุดตันที่จมูกได้บ่อยในคนที่มีผิวหน้ามัน หรือผิวผสม
  • สิวอุดตันที่คาง
    สิวอุดตันบริเวณคาง มักเป็นปัญหาสิวซ้ำซากที่เกิดได้จากทั้งสิ่งสปกรกสะสม ความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ และระดับฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงในช่วงที่มีประจำเดือน โดยสิวอุดตันที่คางจะมีลักษณะเป็นก้อนแข็ง มีหัวสิวชัดเจน แต่หากกดสิวออกผิดวิธีก็จะเกิดรอยแผลเป็นได้ง่าย

รักษาสิวอุดตันยังไงดี? รวมวิธีจัดการกับสิวอุดตันอย่างไรให้เห็นผล

  • ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีกรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) – กรดซาลิไซลิกเป็นตัวช่วยลดการอุดตันในรูขุมขนและช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน เมื่อใช้เป็นประจำสิวอุดตันก็จะค่อยๆ หลุดออกไปและป้องกันการเกิดสิวใหม่ได้
  • สครับผิวเบาๆ – การสครับผิวจะช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าออกไป เพื่อลดการสะสมของเซลล์ผิวที่ตายแล้วที่เป็นตัวการของสิวอุดตัน แต่ข้อควรระวังคืออย่าสครับหนักเกินไปนะคะ เพราะอาจจะทำให้ผิวระคายเคืองและเกิดสิวขึ้นมาใหม่ได้ ดังนั้น ควรสครับแค่เบาๆ สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง
  • กดสิวอุดตัน – อีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยรักษาสิวอุดตันได้เป็นอย่างดี ซึ่งการกดสิวอุดตันนี้สามารถกดออกได้ทั้งสิวอุดตันหัวเปิดและสิวอุดตันหัวปิด และวิธีการกดสิวอุดตันนี้จะช่วยให้หัวสิวหลุดออกจากชั้นผิวหนังได้ง่ายและเร็วขึ้น แต่ต้องทำโดยแพทย์ เพราะหากกดสิวด้วยตัวเองแบบไม่ถูกวิธี อาจทำให้ผิวบริเวณนั้นช้ำ เป็นแผลเป็น หรือรอยดำรอยแดง อีกทั้งหากกดสิวออกไม่หมด ก็อาจทำให้เกิดเป็นสิวอักเสบเป็นหนองตามมาได้อีกด้วย
  • ใช้ยารักษาสิวอุดตันโดยเฉพาะ – ยารักษาสิวอุดตันมีทั้งแบบทาและแบบรับประทาน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำที่เหมาะสมกับการรักษาในแต่ละบุคคล โดยการใช้ยาทาจะเป็นตัวยาที่ช่วยละลายสิวอุดตัน เช่น เรตินอยด์ หรือเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide) ซึ่งจะช่วยละลายสิวอุดตันและลดการอักเสบได้ดี ส่วนยารักษาสิวแบบรับประทานมักจะเป็นยาปฏิชีวนะ ที่จะเหมาะกับคนที่มีสิวอุดตันทั่วใบหน้าและมีสิวอักเสบร่วมด้วย
  • เลเซอร์สิวอุดตัน – การเลเซอร์สิวอุดตันจะคล้ายกับการกดสิวอุดตัน แต่จะเป็นการใช้พลังงานแสงยิงลงไปที่สิวอุดตันให้เปิดหัวสิวออกแทน ซึ่งจะง่ายและเร็วขึ้นกว่าการกดสิวด้วยวิธีธรรมดา และอาจจะมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงแต่ได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่า

การป้องกันสิวอุดตัน ดูแลตัวเองอย่างไรบ้าง? วิธีการป้องกันปัญหาสิวอุดตันที่สามารถทำได้ตัวเองง่ายๆ  มีดังนี้

  • รักษาความสะอาด โดยการล้างหน้าอย่างสม่ำเสมอและเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวของตัวเอง
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าด้วยมือ เพื่อป้องกันการนำแบคทีเรียหรือสิ่งสกปรกเข้าสู่ผิว
  • เลือกใช้เครื่องสำอางที่ไม่อุดตัน ควรเลือกเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ระบุว่า “non-comedogenic”
  • จัดการกับความเครียด เช่น การออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมที่ชอบ
  • ดื่มน้ำและรับประทานอาหารที่ดีต่อผิว การดื่มน้ำอย่างเพียงพอและรับประทานผักผลไม้จะช่วยรักษาสุขภาพผิวของเราได้

เป็นสิวอุดตัน สามารถบีบออกเองได้ไหม?

เวลาเห็นสิวอุดตันบนใบหน้า ใครหลายคนก็อาจจะเกิดความรำคาญใจ อยากจะบีบบออกให้หมดเลยใช่ไหมล่ะคะ แต่ความจริงแล้วไม่แนะนำให้บีบสิวอุดตันออกด้วยตัวเอง เนื่องจากอาจทำให้เกิดการอักเสบ การติดเชื้อ หรือแม้กระทั่งเกิดรอยแผลเป็นและหลุมสิวขึ้นได้ ควรเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสม หรือปรึกษาแพทย์แทนการบีบสิวด้วยตัวเอง

สิวอุดตันไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอีกต่อไป!

ไม่ว่าจะเป็นสิวอุดตันเล็กๆ หรือสิวอุดตันหัวดำ สิวอุดตันหัวขาว เพียงแค่เราเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม รักษาความสะอาด และไม่ลืมที่จะบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งสปาชาของแนะนำตัวช่วยดีๆอย่างทรีตเมนต์ “Oxy Peel” ที่เป็นการพ่นออกซิเจนบริสุทธิ์ลงสู่ผิวหน้าโดยตรง อ่อนโยน ไม่ทำร้ายผิว และช่วยลดการเกิดสิวอุดตันได้ โดยมีข้อดีดังนี้ 

  • ช่วยชะล้างสิ่งสกปรกที่ติดค้างอยู่ตามรู้ขุมขนอย่างล้ำลึก
  • ชะล้างฝุ่นพิษ และเครื่องสำอางตกค้างได้อย่างหมดจด 
  • ผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพและเซลล์ผิวที่ตายแล้ว
  • ช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใส ไร้สิว
  • กระตุ้นคอลลาเจน ให้ผิวกลับมาเนียนนุ่ม ชุ่มเด้ง

ปัญหาสิวต่างๆ ก็จะค่อยๆ หายไปจากผิวหน้าของเรา พร้อมให้เราเผยผิวสวยใสได้อย่างมั่นใจ เพราะฉะนั้นมาสู้กับสิวไปด้วยกันนะคะ

Related Posts

วิธีลดพุง ลดไขมันหน้าท้อง ให้แบนราบ

อยากพุงยุบต้องอ่าน! วิธีลดพุง ลดไขมันหน้าท้อง ให้แบนราบ

ก่อนที่จะลดไขมันหน้าท้องลง เรามาเริ่มรู้จักกับ “ไขมันหน้าท้อง” ก่อน แล้วค่อยไปดูกันว่าควรทำอย่างไรเพื่อที่จะได้บอกลาพุงเด้งกลมๆ หรือไขมันหน้าท้องนี้ไปซะที

อ่านเพิ่มเติม
เลเซอร์ขนรักแร้ เตรียมตัวยังไง

มือใหม่อยาก “เลเซอร์ขนรักแร้” ครั้งแรก ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง?

ขนรักแร้ อุปสรรคต่อผิวเนียนใส จะยกแขนหรือใส่เสื้อโชว์ใต้วงแขนแต่ละทีก็หมดความมั่นใจ สำหรับใครที่คิดจะบอกลาขนรักแร้ หรืออยากมีผิวเรียบเนียน

อ่านเพิ่มเติม
ระบบเผาผลาญพัง

ลดเท่าไหร่ก็ไม่ลง! ปัญหาระบบเผาผลาญพังที่คนลดน้ำหนักต้องรู้

การลดน้ำหนักถือเป็นเรื่องที่หลายคนให้ความสำคัญ แต่ว่าทำไมบางครั้งแม้เราจะควบคุมอาหารหรือออกกำลังกายอย่างเข้มงวด น้ำหนักก็ยังไม่ลดลงตามคาดสักที

อ่านเพิ่มเติม

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า