กระ สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ทุกเพศ และทุกวัย ด้วยลักษณะของกระ จะเป็นจุดเล็กๆ สีน้ำตาล ซึ่งบางคนก็มองว่าถ้ามีกระเล็กๆ บางๆ อยู่บนใบหน้า เราก็จะดู Sexy ดูสวยเหมือนผู้หญิงฝรั่ง แต่กับบางคน…ก็ไม่ชอบ ซึ่งก็ต้องหาวิธีการรักษากระบนใบหน้าให้ค่อยๆจางลงและหายไปในที่สุด ซึ่งถ้าถามว่า…การมีกระ จะเป็นอันตรายต่อตัวเราหรือผิวของเราไหม? ส่วนใหญ่ ไม่เป็นอันตรายในระยะยาวค่ะ แต่ถ้าหากสังเกตแล้วเห็นอาการผิดปกติเกิดขึ้นกับกระ เช่น กระที่เกิดบริเวณไหล่ ช่วงอก กระใหม่ที่เกิดขึ้นมามากแบบกะทันหัน หรือกระเนื้อสีคล้ำ ก็จะแยกอาการจากมะเร็งผิวหนังค่อนข้างยาก ซึ่งคุณอาจจะต้องเข้าพบแพทย์เพื่อปรึกษาและรักษาอาการต่อไปนะคะ
ส่วนใหญ่เรามักจะพบว่า ผู้หญิงเป็นกระมากกว่าผู้ชาย เรียกว่าร้อยละ 80 เลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะผู้หญิงจะมีฮอร์โมนเพศหญิงที่สูง ซึ่งมีส่วนทำให้เซลล์ใต้ชั้นผิวหนังนั้นเกิดความเปลี่ยนแปลง หรืออาจเกิดจากกรรมพันธุ์ อย่างเช่น คนในครอบครัวมีกระ เราก็เสี่ยงที่จะมีกระสูงเหมือนกัน หรือใครที่ตากแดดบ่อย โดนแสงแดดมากๆ ผิวก็จะโดนกระตุ้นจากแสงยูวี นอกจากจะทำให้มีกระแล้ว ยังทำให้กระมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นและสีคล้ำขึ้นด้วยค่ะ
กระ จะแบ่งออกเป็น 4 ชนิด
- กระแดด – มีลักษณะเป็นจุดๆ สีน้ำตาล และผิวเรียบ ซึ่งเกิดจากที่เราโดดแสงแดดบ่อยๆ และเป็นเวลานาน ส่วนใหญ่มักพบในผู้สูงอายุ
- กระตื้น – จุดสีน้ำตาล ขนาดเล็ก แต่ไม่เกิน 0.5 เซนติเมตร จะกระจายไปทั่วผิวหน้าและผิวกาย ซึ่งถ้าเราโดนแดด ก็อาจจะทำให้สีของกระเข้มขึ้น แต่ถ้าหลีกเลี่ยงหรือไม่โดนแดดเลย ก็จะจางลงได้ค่ะ
- กระลึก – ลักษณะของกระชนิดนี้ จะมีสีน้ำตาลอมเทา คล้ายๆกับฝ้า ซึ่งมักจะเกิดบริเวณโหนกแก้ม
- กระเนื้อ – ลักษณะของกระเนื้อ จะเป็นตุ่มนูน สีน้ำตาล บางรายอาจเป็นสีดำ มีทั้งผิวขรุขระและผิวเรียบ เกิดขึ้นได้บริเวณใบหน้า ลำคอ และบริเวณต่างๆ ตามลำตัวค่ะ
เมื่อคุณสังเกตเห็นว่า…ผิวหน้าและผิวบริเวณลำตัวเริ่มมีกระขึ้นมาแล้ว บางคนอาจจะรู้สึกไม่สบายใจ เริ่มเป็นกังวลกลัวว่ากระจะอยู่ตลอดไป อย่าเพิ่งตื่นตระหนกไปค่ะ คุณสามารถทำการรักษากระให้จางลงหรือหายได้ ด้วย 5 สูตรหลักจากธรรมชาติ ดังนี้
- หัวไชเท้า
หลายคนไม่รู้ว่าหัวไชเท้า ก็มีประโยชน์ในแบบที่ช่วยรักษาหรือว่าลดกระได้ โดยการนำหัวไชเท้าไปหั่นเป็นชิ้นเล็ก ปั่นจนละเอียด นำมาพอกบริเวณที่เป็นกระ หรือพอกทั่วหน้า ประมาณ 15 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ก็จะช่วยให้กระดูจางลงได้ค่ะ - มะเขือเทศกับน้ำมะนาว
นำมะเขือเทศสดมาบด แล้วทำการผสมรวมกับน้ำมะนาว ทาลงบริเวณที่เป็นกระ ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที แล้วล้างออก สูตรนี้คุณสามารถทำได้บ่อยตามต้องการเลยค่ะ - มะละกอผสมน้ำผึ้ง
นำมะละกอกับน้ำผึ้ง หรือใครอยากจะเพิ่มน้ำมะนาวด้วยก็ได้ นำมาผสมกัน ล้างหน้าให้สะอาดก่อน แล้วนำมาพอกหน้า ไม่เกิน 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาดค่ะ - หอมแดง
นำหอมแดงมาหั่นและฝานเป็นแผ่นบางๆ วางลงบนผิวหน้าที่มีกระ ประมาณ 10 นาที แล้วล้างออกค่ะ - ขมิ้น
นำผงขมิ้น น้ำมะนาวสด และนมสด มาผสมคนให้เข้ากัน จากนั้นนำมาพอกหน้า นวดจุดที่มีรอยฝ้า กระ ประมาณ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น เพื่อเป็นการกระชับผิว สูตรนี้เราสามารถทำได้ทุกวันเลย
ใครที่ได้เคล็ดลับในการลดกระ ด้วย 5 สูตรหลักจากธรรมชาติไปแล้ว ก็ลองไปทำกันดูนะคะ แต่ถ้ายังเห็นผลลัพธ์ได้ไม่ชัดเจน หรือว่าช้าเกินไป การทำทรีตเม้นท์หรือการเลเซอร์ ก็สามารถที่จะช่วยรักษาได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งทาง Sparsha ก็มีโปรแกรมที่ช่วยรักษาหรือลดฝ้า กระ จุดด่างดำ รวมทั้งรอยดำ รอยแดงให้จางลงและหายได้ ด้วยการทำโปรแกรม Supreme White Lucent ค่ะ
หากสนใจอยากจัดการกับปัญหากระ ไม่ว่าจะเป็นกระชนิดไหน ก็ลองเข้ามาปรึกษากันได้ ที่ Sparsha ทุกสาขาเลยนะคะ