ทำไมผมร่วงเยอะขนาดนี้เนี่ย หัวจะล้านก่อนวัยอันควรหรือเปล่านะ สารพัดความวิตกกังวลต่างๆ นาๆ ที่เกิดขึ้นกับทั้งคุณผู้หญิง และคุณผู้ชาย สาเหตุที่ทำให้ผมร่วงนั้น เกิดได้จากหลายปัจจัยเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น พันธุกรรม ฮอร์โมนเพศชาย ความเครียด สูบบุหรี่ พักผ่อนน้อย หรือความผิดปกติของหนังศีรษะ และอายุก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญเลยก็ว่าได้ ซึ่งอาการผมร่วงไปจนถึงหัวล้าน สามารถเกิดได้กับผู้ชายและผู้หญิงตั้งแต่อายุ 15 ปีขึ้นไปซึ่งนับว่าเร็วมาก แต่ในส่วนใหญ่มักจะเกิดกับคนอายุ 50-60 ปีขึ้นไปค่ะ
บางคนอาจะมีอาการวิตกกังวล รู้สึกว่าการที่ผมร่วงนิดๆ ก็คิดว่าตัวเองเป็นโรคผมร่วงแล้ว แต่ความจริงนั้นเป็นเพียงแค่ผมร่วงตามธรรมชาติซึ่งไม่ถือว่าเป็นความผิดปกตินะคะ ส่วนอาการผมร่วงที่เป็นปัญหาจริงๆก็คือการที่มีผมร่วงมากผิดปกติ ร่วงเป็นกำมือ หรือมีการร่วงเป็นหย่อมๆเฉพาะจุด เพราะฉะนั้นถ้าไม่อยากผมร่วงก่อนวัยอันควรควรดูแลรักษาด้วยวิธีต่างๆ เหล่านี้ค่ะ
วิธีการดูแลรักษาปัญหาผมร่วง
- น้ำมันมะกอกตัวช่วยที่ใช้กันมานาน
น้ำมันมะกอกเป็นตัวช่วยที่ใครหลายๆคน คงเคยใช้ในวัยเด็กจากการที่คุณย่าคุณยายจับหมักผมด้วยน้ำมันมะกอกเพื่อให้ผมดกดำมาตั้งแต่เด็กๆ ช่วยทำให้ผมเงางาม ขจัดสารพิษทำให้เส้นเลือดบริเวณศีรษะไหลเวียนได้ดี ใครที่มีปัญหาผมบางหรือหัวล้านก็ควรหมักผมด้วยน้ำมันมะกอกบ่อยๆ นะคะ - ลดการทำร้ายเส้นผม
ถ้าคุณเป็นคนที่ไม่มีเวลาดูแลเส้นผม แม้กระทั่งการใช้ครีมนวด หรือหมักผมหลังสระเลยก็ตาม แนะนำวิธีที่ง่ายที่สุดก็คือการไม่ทำร้ายเส้นผมด้วยการใช้ความร้อน เช่น ไดร์ หนีบ ม้วนลอน และการทำสีผมกัดสีผม ถ้าหลีกเลี่ยงได้ก็แนะนำให้หลีกเลี่ยงไปก่อน หรือแม้กระทั่งการฉีดสเปรย์ที่เส้นผมเพื่อให้ผมอยู่ทรง เพราะสิ่งเหล่านี้จะดึงออกซิเจนออกจากผมทำให้รากผมของเราอ่อนแอ เป็นสาเหตุให้ผมหลุดร่วง จนเกิดการผมบางและหัวล้านได้ในที่สุด - อย่าปล่อยให้ผมเปียกชื้น และแห้งเอง
เพราะเวลาที่ผมของเราเปียกชื้นนั้น เป็นช่วงเวลาที่ผมเราอ่อนแอและบอบบางมากที่สุด นั่นก็เพราะว่าหนังกำพร้าบนหนังศีรษะของเราเปิดอยู่ อาจะทำให้ผมร่วง ผมบางลงได้ ดังนั้นไม่ควรหวีผมทันทีหลังจากที่สระเสร็จ ควรใช้ผ้าขนหนูซับและเช็ดให้ผมหมาดก่อนและใช้ไดร์ลมเย็น หรือพัดลมเป่าให้ผมแห้ง - งดคาเฟอีน และ นิโคติน
คาเฟอีนในชาและกาแฟทำให้เส้นเลือดหดตัว ส่วนนิโคตินในบุหรี่จะไปขัดขวางระบบไหลเวียนโลหิตในร่างกาย ซึ่งทั้งสองอย่างนี้จะไปขัดขวางออกซิเจนและอาหารที่จะไปหล่อเลี้ยงเซลล์ต่างๆในร่างกาย รวมไปถึงเซลล์เส้นผม ส่งผลให้ผลขาดสารอาหารและออกซิเจนทำให้ผมขาดหลุดร่วง ผมบาง และจบที่หัวล้านในที่สุด - การทำ PRP ผม
PRP Hair Therapy เป็นเทคนิคทางการแพทย์ใหม่ ที่นำเกล็ดเลือดเข้มข้นของตัวเราเองมากระตุ้นให้เซลล์รากผมมีความแข็งแรง โดยที่แพทย์จะนำเกล็ดเลือดมาปั่นแยกและคัดเอาเฉพาะเกล็ดเลือดทีดีที่สุดที่มีความเข้มข้นกว่าเลือดทั่วไป 3-4 เท่า และเกล็ดเลือดนี้จะช่วยหลั่งสารสำคัญทีเรียกว่า Growth factor (GF) ซึ่งจะช่วยให้เลือดแข็งตัว ช่วยเสริมสร้างและกระตุ้นการทำงานของเซลล์ต่างๆ ในร่างกายได้ การฉีด PRP ผมจึงสามารถช่วยกระตุ้นเซลล์ของรากผม เพื่อช่วยชะลออาการผมร่วง รวมถึงบำรุงให้เซลล์รากผมแข็งแรง ทำให้เส้นผมแข็งแรงและดกดำและหนาขึ้น
สำหรับใครที่สงสัยว่า PRP Hair Therapy มีวิธีทำยังไงก็มีตามนี้เลยค่ะ
- ดูดเลือดจากแขนของเรา ในปริมาณประมาณ 10 cc.
- จากนั้นนำเลือดมาปั่นเพื่อแยกส่วนประกอบของเลือด (Centrifuge) ในความเร็วและเวลาที่เหมาะสม ขั้นตอนนี้ทำเพื่อแยกชั้นของเหลวและนำเอาเม็ดเลือดแดงที่ไม่ต้องการใช้ออกไป
- ทำการแยก PLASMA และเกล็ดเลือด เลือกเซลล์ที่สมบูรณ์ออกมา
- ฉีดลงบริเวณหนังศีรษะของเราเพื่อกระตุ้นเซลล์
การทำ PRP Hair Therapy ไม่เป็นอันตรายและปลอดภัยมากแทบจะไม่มีการแพ้เลยเพราะเป็นการฉีดเลือดที่ดีของตัวเองกลับเข้าไป ดังนั้น มั่นใจได้เลยว่าไม่มีผลข้างเคียงอย่างแน่นอน ใช้เวลาในการทำประมาน 1 ชั่วโมง เนื่องจากต้องทำการปั่นเกล็ดเลือดเพื่อแยกเลือดส่วนที่สมบูรณ์ออกมาและฉีดภายใน 45 นาที เพื่อให้เกล็ดเลือดคงความสมบูรณ์เอาไว้มากที่สุด
ดังนั้น PRP Hair Therapy เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่ช่วยแก้ปัญหาผมร่วงผมบางศีรษะล้านได้โดยที่ไม่ต้องผ่าตัด และที่สำคัญมีโอกาสแพ้น้อยมากเพราะเป็นเลือดของเราตัวเองค่ะ
สำหรับใครที่มีปัญหาเรื่อง ผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน แนะนำให้เข้ามาปรึกษาโปรแกรม PRP Hair Therapy ที่ Sparsha ได้เลยค่ะ จบทุกปัญหาเกี่ยวกับผมด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรงแน่นอนค่ะ