เคยไหม? มองขาตัวเองแล้วสะดุดตากับคลื่นน้อยๆ หรือผิวคล้ายๆ เปลือกส้มบนต้นขาที่ทำให้ขาดูไม่กระชับ จนต้องเบือนหน้าหนี หรือบางทีอยากจะใส่ขาสั้นโชว์เรียวขาก็ต้องพับเก็บกางเกงตัวเก่งนี้ไปก่อน เพราะเจ้าเซลลูไลท์ตัวร้ายนี้แหละที่มาคอยทำให้หมดความมั่นใจ แต่วันนี้เรามีตัวช่วยเด็ดที่จะช่วยคุณกำจัดเซลลูไลท์ ใครที่อยากขาเนียนสวย ไร้ผิวแตกลาย หรือผิวเปลือกส้ม ต้องลองโปรแกรม Leg Squeezing ที่สปาชา ตัวช่วยลดเซลลูไลท์ พร้อมให้คุณอวดขาเรียวสวยและกระชับได้ทุกกิจกรรม
แต่ก่อนจะไปลดเซลลูไลท์ต้นขา หรือแก้ปัญหาผิวเปลือกส้ม เรามาทำความรู้จักกับเจ้าตัวร้ายที่ชื่อว่า “เซลลูไลท์” กันก่อนดีกว่า!
เซลลูไลท์ (Cellulite) คืออะไร?
เซลลูไลท์ (Cellulite) หรือที่หลายคนเรียกว่า “ผิวเปลือกส้ม” คือ เซลล์ไขมันใต้ผิวหนังที่เกิดการสะสมจำนวนมากแล้วมีการจับตัวเป็นกระจุกกันและเคลื่อนตัวขึ้นมาสูง จนเป็นชั้นคลื่นอยู่ในเนื้อเยื่อซึ่งเชื่อมต่ออยู่ที่ใต้ผิวหนัง หรือชั้นไขมันใต้ผิวหนังที่ถูกดันขึ้นมาผ่านพังผืด ทำให้ผิวหนังเป็นคลื่น ต้นขาไม่กระชับ ดูไม่เรียบเนียน มีลักษณะขรุขระเป็นตะปุ่มตะป่ำคล้ายกับผิวของเปลือกส้มนั่นเอง ซึ่งปัญหาเซลลูไลท์นี้มักพบได้บ่อยบริเวณ ต้นขา หน้าท้อง สะโพก และก้น สามารถเกิดได้ทั้งในคนที่มีรูปร่างผอมและคนที่มีน้ำหนักเกิน
สาเหตุที่ทำให้เกิด เซลลูไลท์ หรือผิวเปลือกส้ม
มารู้จักกับตัวการที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดปัญหาเซลลูไลท์ หรือผิวเปลือกส้ม จนทำให้คุณต้องมานั่งถอนหายใจกันดีกว่า
- ฮอร์โมน การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น ช่วงตั้งครรภ์ วัยหมดประจำเดือน วัยทอง จะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการสะสมไขมันใต้ผิว จนกลายเป็นปัญหาเซลลูไลท์สะสมได้
- พันธุกรรม หากครอบครัวมีประวัติการเกิดเซลลูไลท์ ก็อาจมีโอกาสสูงที่เราจะเกิดเซลลูไลท์ได้เช่นกัน
- การไหลเวียนโลหิตไม่ดี ทำให้สารอาหารและออกซิเจนไปเลี้ยงผิวไม่เพียงพอ จนเกิดเป็นเซลลูไลท์ตามมาได้ง่าย
- การขาดน้ำ หรือดื่มน้ำน้อยกว่าปกติ จะทำให้ระบบไหลเวียนของน้ำเหลือง และการขับของเสียออกจากร่างกายทำงานได้ไม่ดี แล้วเกิดเป็นเซลลูไลท์ได้ง่ายขึ้นนั่นเอง
- ขาดการออกกำลังกาย จะทำให้ระบบการไหลเวียนเลือดและน้ำเหลืองไม่ดี รวมทั้งร่างกายไม่มีตัวช่วยเร่งการเผาผลาญและกำจัดไขมันส่วนเกินออกไป จนเกิดการสะสมในไขมันและกลายเป็นเซลลูไลท์ตามมา
- อยู่ในท่าเดียวเป็นเวลานาน เช่น การนั่งทำงานนานๆ หรืออยู่ในท่าเดียว โดยไม่ได้ลุกไปไหน รวมทั้งการชอบนั่งไขว่ห้างเป็นประจำ จะทำให้ระบบการไหลเวียนเลือดทำงานได้ไม่เต็มที่ และร่างกายไม่ได้เผาผลาญพลังงาน ส่งผลให้ไขมันสะสมบริเวณต้นขาจนเกิดเป็นเซลลูไลท์ได้
- รับประทานอาหารไม่มีประโยชน์ เช่น อาหารแปรรูป อาหารไขมันสูง น้ำตาลสูง และโซเดียมสูง อาหารประเภทเหล่านี้จะทำให้เซลลูไลท์เติบโตขึ้น
เซลลูไลท์ต้นขา มีลักษณะเป็นอย่างไร?
ลักษณะที่บ่งบอกว่าเรากำลังมีปัญหาเซลลูไลท์ หรือผิวเปลือกส้ม ลองสังเกตดูได้ดังนี้
- ผิวหนังไม่เรียบเนียน มีลักษณะเป็นคลื่น หรือรอยบุ๋มลงไปในบางจุด คล้ายเปลือกส้ม
- ความยืดหยุ่นของผิวหนังลดลง ทำให้ผิวหนังบริเวณต้นขาดูหย่อนคล้อย ไม่กระชับเหมือนบริเวณอื่น
- เมื่อใช้นิ้วบีบหรือจับผิวบริเวณต้นขาจะเห็นลักษณะผิวเป็นคลื่นและรอยบุ๋มชัดเจน
- ผิวหนังอาจมีสีผิวไม่สม่ำเสมอ โดยบริเวณที่มีปัญหาเซลลูไลท์อาจมีสีผิวดูซีดลงหรือแดง หรือเฉดสีผิวแตกต่างจากผิวรอบข้างเล็กน้อย เนื่องจากการไหลเวียนของเลือดลดลง
เซลลูไลท์ มีกี่ประเภท?
เซลลูไลท์สามารถแบ่งได้เป็น 5 ประเภท ดังนี้
- Soft Cellulite
เซลลูไลท์ประเภท Soft Cellulite มีลักษณะเป็นก้อนขนาดเล็ก ผิวหย่อนคล้อย และเป็นริ้วลูกคลื่นแบบนิ่ม มักพบในผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก และขาดการออกกำลังกาย - Hard Cellulite
เซลลูไลท์ประเภท Hard Cellulite มีลักษณะเป็นก้อนเล็กและแข็ง เมื่อสัมผัสจะรู้สึกขรุขระและแข็งเหมือนเปลือกส้ม หรือบีบดูจะเห็นเป็นก้อนแข็งเล็กๆ อย่างชัดเจน สามารถพบทั้งผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากและผู้ที่น้ำหนักตัวน้อยที่มีการสะสมไขมันในจุดเล็กๆ - Flaccid Cellulite
เซลลูไลท์ประเภท Flaccid Cellulite มีลักษณะเป็นก้อนไขมันนุ่ม ผิวหนังมีความหย่อนคล้อย มองภายนอกจะเห็นผิวเป็นคลื่นไม่เรียบชัดเจน ส่วนใหญ่จะมักพบในผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป และผู้ที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย - Edematous Cellulite
เซลลูไลท์ประเภท Edematous Cellulite มีลักษณะเหมือนการบวมน้ำ เมื่อกดที่ผิวลงไปจะบุ๋มและคืนตัวช้า ซึ่งจะเกิดจากการไหลเวียนโลหิตและน้ำเหลืองไม่ดี - Mixed Cellulite
เซลลูไลท์ประเภท Mixed Cellulite เป็นประเภทเซลลูไลท์ที่มักพบได้บ่อยที่สุด โดยจะเป็นลักษณะของเซลลูไลท์ทุกรูปแบบในคนคนเดียว ตั้งแต่ประเภทที่ 1-4 มักพบได้บ่อยในผู้ที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย หรือผู้ที่ชอบกินอาหารประเภทไขมัน ของทอด แป้ง และน้ำตาล รวมทั้งผู้หญิงที่มีลูกแล้ว
วิธีลดเซลลูไลท์ ทำอย่างไรได้บ้าง?
- ออกกำลังกายลดเซลลูไลท์ต้นขา
การออกกำลังกาย เช่น เดินเร็ว วิ่ง ว่ายน้ำ หรือเล่นโยคะ จะช่วยเผาผลาญไขมันในร่างกายออกไป เพื่อลดการสะสมของไขมัน และช่วยลดเซลลูไลท์ หรือลดการเกิดผิวเปลือกส้ม รวมทั้งยังช่วยกระตุ้นให้กล้ามเนื้อตามส่วนต่างๆ ในร่างกายแข็งแรงขึ้น โดยแนะนำให้ออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 วัน วันละ 30-40 นาที - ปรับเปลี่ยนการกิน เพื่อลดเซลลูไลท์ต้นขา
ลดเซลลูไลท์ด้วยการลดอาหารที่ก่อให้เกิดเซลลูไลท์ หรือผิวเปลือกส้มได้ง่าย เช่น ลดอาหารที่มีไขมันสูง ลดน้ำตาล ลดแป้ง ลดโซเดียม และลดอาหารแปรรูป เช่น แฮม เบคอน ไส้กรอก ของหมักของดอง เป็นต้น เพราะอาหารเหล่านี้หากรับประทานมากเกินไปก็จะเป็นการสะสมพลังงานในร่างกาย เมื่อร่างกายเผาผลาญไม่ทันก็จะเกิดการสะสมของไขมันและเซลลูไลท์ได้นั่นเอง และหากต้องการลดเซลลูไลท์ แนะนำให้เลือกอาหารที่มีไฟเบอร์สูง เน้นผักและผลไม้สด จะช่วยลดการเกิดเซลลูไลท์และยังช่วยควบคุมน้ำหนักได้ดีด้วย - ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ
การดื่มน้ำให้เพียงพอต่อร่างกายจะช่วยให้ระบบต่างๆ ในร่างกายสามารถทำงานได้เป็นปกติ ช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดของร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยให้ร่างกายสามารถขับของเสียหรือสารพิษตกค้างออกได้อย่างดี โดยแนะนำให้ดื่มน้ำประมาณวันละ 1.5-2 ลิตร จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายเผาผลาญไขมัน สามารถลดเซลลูไลท์ออกไปจากต้นขาและลดการเกิดผิวเปลือกส้มได้ - ลดเซลลูไลท์ด้วยการสครับผิว
สำหรับการขัดถูสครับผิวเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยลดเซลลูไลท์ได้ โดยการสครับผิวหรือขัดผิวด้วยกากกาแฟสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ในบริเวณที่มีปัญหาเซลลูไลท์หรือผิวเปลือกส้ม จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดใต้ชั้นผิว ช่วยขับของเหลวและของเสียออกตามกลไลธรรมชาติ อีกทั้งยังช่วยลดขนาดเซลลูไลท์ใต้ชั้นผิว ลดโอกาสเกิดผิวเปลือกส้ม และทำให้ผิวกระชับดูเรียบเนียนขึ้นด้วย

สลายเซลลูไลท์ให้หายไป ด้วยโปรแกรม Leg Squeezing by SparSha
อีกหนึ่งวิธีลดเซลลูไลท์ต้นขายังสามารถใช้ตัวช่วยด้วยหัตถการทางการแพทย์ได้ อย่างโปรแกรม Leg Squeezing ที่สปาชา จะเป็นนวัตกรรมที่ช่วยลดเซลลูไลท์ ลดรอยแตกลายของผิว ทำให้ผิวตึงกระชับเรียวขาเรียบเนียนและดูเฟิร์ม ด้วยเทคโนโลยีการนวดระบบสุญญากาศ และ Chromo Therapy Anti Fat ระบบแสงบำบัด 3 สี ได้แก่
- แสงสีแดง ช่วยเร่งการเผาผลาญ กระตุ้นระบบไหลเวียนเลือด สลายไขมัน พร้อมลดการก่อตัวของเซลลูไลท์
- แสงสีเขียว ช่วยลดการบวมน้ำของผิว และลดการระคายเคืองผิว
- แสงสีฟ้า ช่วยลดรอยแตกลายจากผิวเปลือกส้ม พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว
ข้อดีของโปรแกรม Leg Squeezing
- กระตุ้นการเผาผลาญ กำจัดของเสียตกค้างที่แทรกตัวอยู่ในเซลลูไลท์
- ช่วยสลายไขมันให้แตกตัว ลดปัญหาเซลลูไลท์
- ลดรอยแตกลายของผิวและปรับผิวให้เรียบเนียน
- กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต
- ลดอาการบวมน้ำเฉพาะส่วน
- กระชับผิวบริเวณต้นขาที่หย่อนคล้อยให้ดูเนียบกระชับขึ้น
- ใช้เวลาไม่นาน และไม่ต้องเสี่ยงในการผ่าตัด
โปรแกรม Leg Squeezing เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่มีปัญหาเซลลูไลท์ต้นขา
- ผู้ที่ต้องการปรับรูปร่างให้กระชับ
- คนที่ไม่มีเวลาออกกำลังกายหนักๆ แต่ยังอยากขากระชับเรียบเนียน
วิธีดูแลขาเรียวสวยหลังทำโปรแกรม Leg Squeezing
- ออกกำลังกายเบาๆ อย่างสม่ำเสมอ เช่น การเดินเร็ว หรือโยคะ
- ดื่มน้ำมากๆ เพื่อช่วยล้างสารพิษในร่างกาย
- งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
- บำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและกระชับผิว
สำหรับใครที่อยากบอกลาปัญหาเซลลูไลท์ต้นขา พร้อมโชว์ขาสวยเรียบเนียนอย่างมั่นใจ สามารถนำเคล็ดลับต่างๆ เหล่านี้ไปทำตามได้นะคะ รวมไปถึงการทำโปรแกรม Leg Squeezing จาก SparSha ก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยลดเซลลูไลท์ต้นขาที่คุณไม่ควรพลาด หากสนใจสามารถเข้ามาปรึกษากับแพทย์ที่สปาชาได้เลย แล้วคุณจะพบว่าการมีต้นขาที่เรียวกระชับไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป!